รีวิว Nokia E90 Communicator

รีวิว Nokia E90 Communicator

รีวิว Nokia E90 Communicator
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แรกเห็น: สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานโทรศัพท์มือถือ ที่มีความสามารถเสมือนการนำออฟฟิศติดตัวไปได้ทุกที่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์มือถือในตระกูล Communicator ของ Nokia สามารถตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ได้มากมายทีเดียว ล่าสุด Nokia ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือในตระกูลนี้รุ่นใหม่ออกมา โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Nokia E90 Communicator ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้า Enterprise หรือกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ใช้งาน Push Mail เป็นหลัก รูปทรงของ Nokia E90 Communicator เป็นแบบ Bar Type ที่สามารถเปิดฝาด้านข้างกางได้ 180 องศาเพื่อใช้งานคีย์บอร์ดแบบ QWERTY พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ด้านใน ส่วนด้านนอกก็ดีไซน์เหมือนโทรศัพท์มือถือทั่วไป ไล่ตั้งแต่ด้านบนลงมามีช่องลำโพงสำหรับสนทนา ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผล ตรงมุมขวาเหนือหน้ามีปุ่มเปิดปิดเครื่อง และถัดจากหน้าจอเป็นแผงปุ่มกดใช้งาน พลิกมาด้านหลังเครื่องจะเห็นเลนส์ของกล้องดิจิทัลพร้อมไฟแฟลชอยู่ข้างๆ และมุมทั้ง 4 ด้านมีปุ่มยางป้องกันไม่ให้เครื่องเป็นรอยเวลาวาง ด้านข้างเครื่องเริ่มจากด้านซ้ายเป็นส่วนของข้อพับที่ออกแบบมาให้ทนทานต่อการเปิดปิด ส่วนด้านขวามีปุ่มใช้งานคำสั่งเสียง พอร์ทอินฟราเรด และปุ่มใช้งานกล้องดิจิทัล และด้านท้ายเครื่องมีช่องสำหรับเสียบสายดาต้าลิงค์แบบ mini USB ช่องเสียบสายชาร์จไฟ และช่องสำหรับเสียบชุดหูฟัง ทดลองใช้งาน การใส่ SIM CARD วิธีใส่ SIM Card ของเครื่อง Nokia E90 Communicator นี้ ให้ทำการถอดฝาหลังของเครื่องออกมาก่อน โดยพลิกเครื่องมาทางด้านหลังให้อยู่ในแนวตั้ง แล้วใช้นิ้วโป้งของมือข้างซ้ายจิกลงไปที่ตัวล็อคซึ่งอยู่บริเวณด้านขวาเพื่อปลดล็อค และดันเลื่อนฝาไปด้านขวาแล้วหยิบออกจากเครื่อง จากนั้นให้ถอดแบตเตอรี่ออกมา โดยใช้นิ้วงัดแบตเตอรี่จากตรงกลางด้านล่างของแบตเตอรี่ และหยิบออกจากเครื่อง สำหรับช่องใส่ SIM Card นั้นจะอยู่ถัดจากช่องใส่แบตเตอรี่ ให้นำ SIM Card ใส่เข้าในช่องตามรูปสัญลักษณ์ที่มีตัวอักษร SIM และรูปลูกศรชี้ เมื่อใส่เสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำแบตเตอรี่และฝาหลังใส่กลับเข้าไปตามเดิม การเปิด-ปิดเครื่อง ตำแหน่งปุ่มเปิด-ปิดเครื่องรุ่นนี้อยู่บริเวณมุมขวาเหนือหน้าจอแสดงผลด้านหน้าเครื่องพร้อมสัญลักษณ์วงกลมขีดกลาง ให้กดปุ่มนี้ค้างไว้ประมาณ 1-2 วินาที เครื่องก็จะทำการเปิดขึ้นมาพร้อมโลโก้ Nokia ตามด้วยภาพสัญลักษณ์มือจับกันและเสียงโพลีโฟนิคประกอบ จากนั้นเครื่องจะทำการค้นหาสัญญาณเครือข่ายก่อนที่จะเข้าสู่หน้าจอ Standby หน้าจอพร้อมใช้งานของเครื่องทั้งด้านนอกและด้านในเป็นลักษณะหน้าจอที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian OS Series 60 Platform 3.1 Edition เวอร์ชัน 9.2 สามารถแสดงไอคอนเมนูที่เราใช้งานบ่อยๆ (Active Standby) เช่น ปฏิทิน เครื่องคิดเลข บันทึก เป็นต้น คล้ายกับเครื่อง PDA ทั่วไป แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ตั้งค่าเป็นหน้าจอใช้งานปกติที่ไม่มีไอคอนเมนูก็ได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่เมนู Settings>Phone>Standby Mode>Active Standby>On หรือ Off Open+open page.กดที่ปุ่มเปิดปิดบนเครื่องค้างไว้ เครื่องก็จะเริ่มต้นทำงาน ปุ่มกดและความเหมาะมือ ปุ่มกดของเครื่องนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ ส่วนด้านหน้าประกอบด้วยปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, ปุ่ม Navigator Key แบบ 5 ทิศทาง, ปุ่ม Soft Key ซ้าย-ขวา, ปุ่มเมนูหลัก, ปุ่ม C, ปุ่มโทรออก-รับสาย, ปุ่มวางสาย และแผงปุ่มกดตัวเลข อีกส่วนอยู่ด้านในเมื่อเปิดฝาพับออกมา ด้านข้างจอซ้าย/ขวามีปุ่ม 4 ปุ่มเรียงลงมา คือปุ่มโทรออก/รับสาย, ปุ่มวางสาย และปุ่ม Soft Key 2 ปุ่ม ถัดลงมาในส่วนของฝาพับด้านล่างเป็นแผงคีย์บอร์ดแบบ QWERTY คล้ายกับคีย์บอร์ดที่ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์ ทำให้การพิมพ์และการป้อนข้อความทำได้ง่ายและสะดวก นอกจากนี้ด้านบนคีย์บอร์ดยังมีปุ่มคีย์ลัดอีก 8 ปุ่มได้แก่ ปุ่ม Desk สำหรับกดเพื่อกลับมายังหน้าจอหลัก, ปุ่ม Contacts สมุดโทรศัพท์, ปุ่ม Messaging ใช้งานรับส่งข้อความ, ปุ่ม Web ใช้งานอินเทอร์เน็ต, ปุ่ม Note สมุดโน๊ต, ปุ่ม Calendar ใช้งานปฏิทินและตารางนัดหมาย, ปุ่ม My own สำหรับตั้งให้เรียกใช้โปรแกรม และปุ่มเมนูหลัก และยังมีปุ่ม Navigator Key แบบ 5 ทิศทาง สำหรับควบคุมการทำงานต่างๆ แต่ในส่วนนี้จะไม่มีไฟเรืองแสงขึ้นมาเหมือนด้านหน้าเครื่อง ทำให้กดใช้งานลำบากเวลาใช้งานในที่มืดหรือกลางคืน เมนูการใช้งาน สำหรับเมนูการใช้งานของเครื่องรุ่นนี้เหมือนกันทั้งด้านหน้าและด้านในเครื่อง วิธีเข้าสู่เมนูหลักก็ให้กดที่ปุ่มเมนูซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านในเครื่อง สามารถตั้งค่าเลือกแสดงรูปแบบเมนูได้ 2 แบบคือแบบ Gird และแบบ List โดยกดเลือก Options>Change Menu view เมนูใช้งานหลักมีด้วยกันทั้งหมด 14 เมนู คุณสมบัติการใช้งาน ด้านการโทร เริ่มที่เมนู Contacts หรือสมุดโทรศัพท์ เป็นแบบ Multi-field Phonebook โดยในแต่ละชื่อใส่รายละเอียดได้ตั้งแต่ชื่อ-นามสกุล บริษัท ตำแหน่งงาน รวมทั้งสามารถเพิ่มรายละเอียดต่างๆ แบ่งกลุ่มการโทร แนบรูปถ่ายไปกับรายชื่อได้ พร้อมด้วยระบบโทรออกด้วยเสียงแบบ SIND (Speaker-Independent Name Dialing) และ Voice Aid สำหรับใช้งานคุณสมบัติหลักๆ ของโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องมองที่ตัวเครื่อง นอกจากนี้คุณสมบัติด้านโทรที่พิเศษของเครื่องรุ่นนี้คือ รองรับการสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต Internet Call สำหรับการโทรศัพท์ผ่าน VoIP (Voice Over IP) ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรโดยเฉพาะการโทรไปต่างประเทศที่มีเครือข่ายนี้รองรับ ซึ่งบ้านเราตอนนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ ต้องรอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เปิดให้บริการก่อน ด้านการรับ-ส่งข้อความ การรับ-ส่งข้อความนั้น รองรับทั้ง SMS, MMS และ E-mail ซึ่งรองรับโปรโตคอลแบบ POP3, IMAP4 และ SMTP พร้อมด้วย Nokia Intellisync Wireless E-mail 8.0 และรองรับโปรแกรมรับ-ส่งอีเมล์ของผู้ใช้บริการรายอื่นได้แก่ Mail for Exchange 1.5 (ส่งผ่านแอบพลิเคชัน Download!), Visto Mobile v5.5, RIM BlackBerry Connect v2.1 และ Good Mobile Messaging (โปรแกรมรับ-ส่งอีเมล์ที่มีขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ) และยังรองรับการเปิดดูและแก้ไขไฟล์แนบ รวมทั้งมีไฟบอกสถานะเมื่อได้รับอีเมล์ใหม่ ด้านออร์แกไนเซอร์ ในส่วนออร์แกไนเซอร์ได้แก่ ปฏิทินสำหรับบันทึกนัดหมายต่างๆ บันทึกสิ่งที่ต้องทำ บันทึกข้อความ นอกจากนี้ยังมีส่วนของ Office ที่ประกอบด้วยแอบพลิเคชัน Nokia Team Suite สำหรับอำนวยความสะดวกระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์และการสื่อสารผ่านทาง SMS และอีเมล์ รวมทั้งโปรแกรม Quickoffice ที่ประกอบไปด้วย Quickword, Quicksheet และ Quickpoint, โปรแกรม Zip Manager, ระบบค้นหาข้อมูลในโทรศัพท์ และ Adobe Acrobat Reader ด้านมัลติมีเดีย เริ่มที่การถ่ายภาพ มีกล้องดิจิทัลมาให้ 2 ตัว กล้องตัวแรกอยู่ด้านหลังเครื่องเป็นกล้องดิจิทัลความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชและระบบ Auto Focus ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 2048x1536 พิกเซล ซูมดิจิทัล 20 เท่า มีแถบเมนูสำหรับตั้งค่าการถ่ายไม่ว่าจะเป็นโหมดฉาก 8 แบบ โหมดแฟลชพร้อมฟังก์ชันลดจุดตาแดง ตัวจับเวลา สลับไปโหมดต่อเนื่อง ปรับชดเชยค่ารับแสง ปรับสมดุลสีขาว ปรับโทนสี ปรับความไวแสง ปรับความคมชัด และปรับความชัด ส่วนโหมดวิดีโอ ถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด VGA 640x480 พิกเซล เลือกคุณภาพได้ 5 ระดับ คือ TV high quality รองรับการแสดงผลบนจอทีวี (MP4), TV normal quality รองรับการแสดงผลบนจอทีวี แต่คุณภาพที่ได้จะด้อยลงมา (MP4), E-mail high quality สำหรับส่งอีเมล์ (MP4), E-mail norm. quality สำหรับส่งอีเมล์ แต่คุณภาพที่ได้จะด้อยลงมา (MP4) และ Sharing quality สำหรับส่ง MMS (3GP) พร้อมฟังก์ชัน Video stabilization หรือระบบป้องกันภาพสั่นไหว และกล้องตัวที่สองอยู่มุมซ้ายเหนือหน้าจอด้านในเป็นกล้องดิจิทัล CIF (384 x 320 พิกเซล) สำหรับการสนทนาแบบเห็นหน้า (Video Calling) ส่วนคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียอื่นๆ ก็มี Music Player หรือเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลที่รองรับการเล่นไฟล์เพลง MP3, WAV, MIDI, AAC, eAAC, eAAC+, M4A และ WMA ด้วยระบบจัดการเพลง รายชื่อเพลง เล่นเพลงซ้ำ เพลงแบบสุ่ม ปรับตั้งค่าเสียงอีควอไลเซอร์ได้ 5 แบบ พร้อมฟังก์ชัน Radio สำหรับรับฟังวิทยุ FM Stereo นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม RealPlayer สำหรับฟังเพลงหรือดูวิดีโอคลิปรวมทั้งดาวน์โหลดรายการสดผ่านทางระบบสตรีมมิ่ง ที่รองรับไฟล์ในรูปแบบ AMR-NB, AMR-WB, AAC, RealAudio, RealVideo, H.263, MP4 และฟังก์ชัน GPS ซึ่งเป็นอีกรุ่นหนึ่งของ Nokia ที่มีฟังก์ชันนี้ สำหรับค้นหาตำแหน่งและนำทางด้วยดาวเทียม GPS พร้อมโปรแกรม Maps ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคู่ระหว่างสัญญาณ GPS และการเชื่อมต่อผ่าน GPRS หรือ WLAN สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้งาน GPS ในเมนู Help ก็จะมีรายละเอียดอธิบายการใช้งานง่ายแบบ Step by Step นอกจากนี้ยังมีส่วนของ GPS data ที่ใช้คำนวณระยะทาง และอัตราเฉลี่ยในการเดินทาง ด้านการเชื่อมต่อ ในส่วนของการเชื่อมต่อต่างๆ ประกอบด้วยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นเพื่อรับส่งข้อมูลและไฟล์ต่างๆ นั้นรองรับการเชื่อมต่อแบบผ่านทางสายดาต้าลิงค์แบบ mini USB กับแบบไร้สายผ่านทาง WLAN, Bluetooth และ Infrared (ความเร็วสูงสุด 115 กิโลบิต/วินาที) และการเชื่อมต่อแบบ WLAN ยังสามารถใช้ได้กับหลายแอบพลิเคชันในคราวเดียวกัน เช่น อีเมล์ เบราเซอร์ และการอัปเดทข้อมูล ส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตทำได้ด้วย WAP Browser เวอร์ชัน 2.0 รองรับ xHTML กับ Nokia Web Browser พร้อม Mini Map ผ่านเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง GPRS/EDGE Class 10 , WCDMA, WLAN 802.11 b/g และ HSDPA ความเร็วสูงสุด 3.6 เมกะบิต/วินาที สำหรับหน่วยความจำนั้นมีหน่วยความจำภายในแบบ Shared Memory ขนาด 128 MB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 2 GBเชิงเทคนิค การทดสอบฟังก์ชันพิเศษในเครื่อง การทดสอบฟังก์ชันพิเศษในเครื่อง Nokia E90 Communicator ได้ทำการทดสอบถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัลความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล เริ่มจากการถ่ายภาพนิ่งในโหมด Auto เลือกขนาดของภาพสูงสุดในขนาด 2048 x 1536 พิกเซล โดยถ่ายในระยะใกล้ที่สุดในการใช้งาน Auto Focus กับวัตถุที่ถ่ายประมาณ 0.8 เมตร ผลปรากฏว่าภาพที่ถ่ายมามีความชัดเจนดี ส่วนการถ่ายภาพทั่วไปโดยรวมแล้วภาพที่ถ่ายมาอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น ได้ทำการทดสอบโดยเลือกขนาดของภาพสูงสุดในขนาด 640x480 พิกเซล ผลการทดสอบปรากฏว่าความสามารถในการบันทึกวิดีโออยู่ในระดับดี ระยะเวลาในการเปิดเครื่อง ตามสเปกที่ให้มาระบุไว้ว่าเปิดเครื่องรอรับสายได้สูงสุด 14 วันหรือประมาณ 336 ชั่วโมง และสนทนาได้นานต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ชั่วโมง ทดลองใช้งานดูด้วยแบตเตอรี่ Li-ion 1,500 mAh แบบ BP-4L โดยใช้งานด้านเสียงไปประมาณ 30-40 นาทีต่อวัน และใช้งานอื่นๆ เช่น พิมพ์งาน, เล่นอินเทอร์เน็ต, ฟังเพลง เป็นต้น ปรากฏว่าใช้งานได้ประมาณ 2 วัน แต่ถ้าหากใช้โทรอย่างเดียวก็น่าจะอยู่ได้ 2-3 วัน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับโทรศัพท์มือถือที่มากความสามารถและมีหน้าจอใหญ่ขนาดนี้ ส่วนการชาร์จใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง อุปกรณ์เสริม สำหรับอุปกรณ์ในกล่องนั้นประกอบด้วยตัวเครื่อง Nokia E90 Communicator, แบตเตอรี่ Li-ion 1,500 mAh แบบ BP-4L จำนวน 1 ก้อน, ชุดหูฟังแบบสเตอริโอ HS-47, อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบพกพา AC-4U, สายเชื่อมต่อ USB DKE-2, การ์หน่วยความจำแบบ microSD Card ขนาด 512 MB, คำแนะนำแบบรวบรัด, คู่มือการใช้งาน DVD ROM พร้อมโปรแกรม Nokia PC Suite และซองหนัง คลิ๊กดูคุณสมบัติโทรศัพท์ Nokia E90 communicator

สนับสนุนเนื้อหาโดย
นิตยสาร First Mobile 66

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ รีวิว Nokia E90 Communicator

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook