Samsung LA32A650 Full HD LCD-TV

Samsung LA32A650 Full HD LCD-TV

Samsung LA32A650 Full HD LCD-TV
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
Samsung
LA32A650
Full HD LCD-TV
 
 
 
‘..With the intention of breaking free of the glossy black, boxlike
boundaries of conventional TV design, Samsung actively sought a more
natural beauty that reflects their design policy of technological’


....................................................................................................


 
ดู เหมือนว่าทิศทางการแข่งขันในตลาดจอภาพปัจจุบันนี้จะเริ่มปรับเปลี่ยนจากการ แข่งขันทางด้าน ‘สเปคฯ+เทคโนโลยี’ มาเน้นทางด้าน ‘ดีไซน์’ กันมากขึ้น สังเกตได้จากแอลซีดี-ทีวีรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาในตลาดช่วงหลังๆ มานี้ล้วนมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น-สวยงามกันแทบจะทั้งนั้น
บางรายนั้นถึงกับ ‘ปรับโฉม’ ออกไปจากรูปลักษณ์ของทีวียุคเก่าทรงกล่องสี่เหลี่ยมเดิมๆ ไปไกลเลยทีเดียว..  
  

คุณสมบัติสำคัญ
ขนาดจอ/สัดส่วนจอ
   = 32 นิ้ว / ไวด์สกรีน (16:9)
ความละเอียดของจอ   = 1920x1080 พิกเซล
ความสว่าง     = 550 cd/m2
คอนทราสต์ เรโช    = 15,000:1
สัดส่วน (รวมขาตั้ง)   = 585(H) x 806(W) x 252(D) มิลลิเมตร
น้ำหนัก (รวมขาตั้ง)   = 13.8 กิโลกรัม           
 
Samsung LA32A650 for natural beauty! 
นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงภาวการณ์แข่งขันทางด้าน ‘ดีไซน์’ ที่เด่นชัดมากที่สุดในขณะนี้.!


Samsung LA32A650 เป็นหนึ่งในแอลซีดี-ทีวีที่อยู่ในกลุ่ม Series 6 ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและดีไซน์เป็น หลัก (จากโปรดักต์ที่มีอยู่ทั้งหมด 5 ซีรีส์คือ Series 750, Series 650, Series 550, Series 450 และเล็กสุดก็คือ Series 330) ทั้งไลน์ของซีรีส์ 650 นี้มีอยู่ทั้งหมด 7 รุ่น 7 ขนาดด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ 19 นิ้วขึ้นไปจนถึง 52 นิ้ว แต่ที่ถูกนำมาจำหน่ายในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น 4 ขนาดคือ LA32A650P1R ขนาด 32 นิ้ว, LA40A650P1R ขนาด 40 นิ้ว, LA46A650P1R ขนาด 46 นิ้ว และ LA52A650P1R ขนาด 52 นิ้ว ตัวที่ถูกนำมาเป็นทัพหน้าในการลุยตลาดสำหรับเมืองไทยคือรุ่น LA32A650 เป็นรุ่นเล็กสุดของซีรีส์นี้ มีขนาดจอเท่ากับ 32 นิ้วไวด์สกรีน (16:9) ซึ่งถือว่าเป็นขนาดจอที่อยู่ในเกณฑ์ยอดนิยมในบ้านเราตอนนี้ 

จุดเด่นของแอลซีดี-ทีวีตัวนี้คือดีไซน์ที่โดดเด่นมาก!

ด้าน หลังของตัวถังที่ห่อหุ้มจอเป็นพลาสติกที่ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์โค้งมน กลมเกลี้ยงเนียนมือ รวมถึงส่วนของขาตั้งที่ทำด้วยพลาสติกและมีดีไซน์ลักษณะโค้งมนเช่นกัน โทนสีของตัวเครื่องทั้งชิ้นจะออกดำเป็นพื้น นอกจากส่วนที่เป็นกรอบที่ล้อมรอบจอด้านหน้านั้นได้ถูกตกแต่งให้ดูสวยงามมี เสน่ห์มากยิ่งขึ้นด้วยกรอบพลาสติกที่ขัดผิวจนมันวาว และลงสีแดงเจือลงไปในเนื้อพลาสติกสีดำ เกิดเป็นรูปลักษณ์ของสีดำที่มีเหลือบสีแดงทับทิมเจืออยู่จางๆ (ในโบรชัวร์เรียกว่าสี Rose Black) แลดูคล้ายแก้วคริสตัล ซึ่ง Yun-je Kang คนออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรงงานเป่าแก้วคริสตัลที่เมืองมูราโน ในประเทศอิตาลี
 
 
 
      
ขั้วต่อ HDMI ด้านข้างของตัวเครื่อง (A) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการติดตั้งให้อีกทางในกรณีที่ไม่สามารถเดินสายเข้าทาง ด้านหลังของตัวเครื่อง ถัดลงมาเป็นช่อง USB ไดรฟ์ (B) ที่มาพร้อมรูปแบบการควบคุมสั่งงานระบบ WISELINK  
ขั้วต่อภาพและเสียงด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งทีวีรุ่นนี้ให้อินพุต HDMI มาถึง 3 ช่องด้วยกัน (A) ที่เด่นคือมีขั้วต่อ VGA (B) สำหรับคอมพิวเตอร์ด้วย
 
 
Samsung LA32A650 for high technology! 
ใช่ ว่าจะเน้นความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ LA32A650 ตัวนี้ยังแอบซ่อนเทคโนโลยีทางด้านภาพและเสียงเด็ดๆ กับสเปคฯ เด่นๆ เอาไว้ข้างในอีกหลายประการ เริ่มจากความละเอียดของจอที่สูงถึง 1920x1080 พิกเซล ทำให้มันสามารถตอบรับกับสัญญาณภาพที่ระดับสูงสุดของเครื่องเล่น Blu-ray คือ 1920x1080 ได้อย่างสบายๆ ให้อัตราคอนทราสต์-เรโชที่สูงถึง 15,000:1 + ความสว่างเท่ากับ 550 แรงเทียนต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็น LCD-TV ที่ให้ Light-output (ประสิทธิภาพในการเปล่งความสว่างของภาพ) ได้สูงมากทีเดียวเมื่อเทียบกับแอลซีดี-ทีวีที่ออกมาในตลาดก่อนหน้านี้ (ดูผลที่มีต่อเสียงในหัวข้อถัดไป)

มี ช่องอินพุต HDMI มาให้มากถึง 3 ช่อง (เวอร์ชั่น 1.3) โดยติดตั้งไว้ที่แผงด้านหลัง 2 ช่อง ส่วนอีกหนึ่งช่องแยกไปติดตั้งไว้ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งทำให้สะดวกต่อการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ไม่ได้ติดตั้งไว้ตายตัว อย่างเช่น กล้องดิจิตอล-แคมโค้ดเดอร์รุ่นใหม่ๆ บางรุ่นที่เริ่มมีการใช้การเชื่อมต่อด้วยขั้วต่อ HDMI เป็นต้น นอกจาก HDMI แล้ว แอลซีดี-ตัวนี้ยังมีช่องต่ออินพุตสำหรับสัญญาณอะนาล็อกรูปแบบอื่นมาให้ใช้ อีกตั้งเยอะแยะ อาทิ ขั้วต่อแบบ component video, ขั้วต่อ S-Video, ขั้วต่อ Composite Video ซึ่งเป็นขั้วต่อที่มีไว้ให้ใช้กับอุปกรณ์ที่อยู่ในกลุ่ม A/V นอกจากนั้นแล้ว แอลซีดี-ทีวีตัวนี้ยังมีขั้วต่อที่มีไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในกลุ่ม computer มาให้ด้วย ได้แก่ ช่องต่อสัญญาณภาพแบบ VGA (D-sub 15 pin) ซึ่งสามารถต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง ซึ่งนับวันจะหาได้ยากมากขึ้นแล้วในทุกวันนี้สำหรับทีวีรุ่นใหม่ๆ ที่มีช่องต่อ VGA มาให้แบบนี้  

อีก จุดหนึ่งที่น่าประทับใจสำหรับแอลซีดี-ทีวีตัวนี้ นั่นคือช่องต่อ USB ที่สามารถดึงภาพ JPEG กับสัญญาณเสียงเพลง MP3 ที่บันทึกอยู่บนอุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบพกพา (จำพวกแฟรชไดรฟ์ต่างๆ) ออกมาดูบนจอและฟังจากลำโพงของทีวีได้โดยตรง ซึ่งทางซัมซุงยังได้บรรจุซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมสั่งงานการใช้งานเจ้า USB flash drive พวกนี้มาให้ด้วย ชื่อว่าฟังก์ชัน ‘WISELINK’ ซึ่งใช้งานง่ายและสะดวกมาก        
 
 
     
 
รีโมตไร้สายกับฟังก์ชันที่ให้มาครบ
ที่เด่นมากคือปุ่มกดเรืองแสงช่วยให้มองเห็นได้ในที่มืด
   
แผงด้านหลังตัวเครื่องออกแบบโค้งมน ดูสวยมาก
เรียกว่าผิด look ของทีวียุคเก่าไปเลย!
 
 
Samsung LA32A650 for premium performance! 
แอล ซีดี-ทีวีตัวนี้บรรจุฟังก์ชันที่ใช้ในการปรับแต่งภาพมาให้มากมายหลาย ฟังก์ชันด้วยกัน ที่โดดเด่นมากๆ ก็คือความสามารถในการปรับเพิ่ม/ลดระดับการส่องสว่างของหลอดไฟ (Backlight) ที่อยู่หลังแผง LCD ได้ ซึ่งทำให้คุณสามารถกำหนดระดับของความสว่างของแสง Backlight ให้เหมาะสมกับสภาพแสงจริงในสถานที่ที่คุณรับชมได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรจะปรับตั้งก่อนการปรับเซ็ตสีสันและแสง-เงาของภาพ และนับว่าเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากฟังก์ชันหนึ่งสำหรับแอลซีดี-ทีวีตัว นี้ เพราะไม่เพียงจะเป็นการทำให้คุณสามารถปรับเซ็ตภาพให้ได้คุณภาพของภาพที่ดี มากในทุกสภาพแสงแล้ว ฟังก์ชันนี้ยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้คุณไปในตัวด้วย ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังรณรงค์กันอยู่ทั่วโลกขณะนี้


สำหรับ คนที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการปรับแต่งภาพมากนัก แอลซีดี-ทีวีตัวนี้ก็ยังมีฟังก์ชันการปรับแต่งภาพแบบสำเร็จรูปมาให้คุณเลือก ใช้ด้วยกัน 3 โหมดคือ Dynamic สำหรับการใช้งานในสภาพแสงที่สว่างมากๆ และต้องการคอนทราสต์ของภาพสูงๆ, Standard คือโหมดที่ใช้กับสัญญาณทั่วไป และสุดท้ายคือ Movie สำหรับการรับชมภาพยนตร์จากแผ่นดีวีดี และบลู-เรย์ฯ ซึ่งในแต่ละโหมดนั้นก็ยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถปรับแต่งสีสันของภาพเพิ่ม เติมได้อีกจนกว่าจะพอใจ

สำหรับ มืออาชีพที่มีความเข้าใจในการปรับแต่งภาพระดับสูง คุณจะชอบแอลซีดี-ทีวีซัมซุงตัวนี้ เพราะมันเปิดโอกาสให้คุณเข้าไปทำการปรับเซ็ตในส่วนของภาพได้อย่างละเอียด ตั้งแต่จุดกำเนิดของการผสมแม่สีนั่นเลย ด้วยฟังก์ชันการปรับแต่ง ‘White Balance’ หรือปรับสัดส่วนการผสมระหว่างแม่สี RGB ให้ได้บุคลิกของสีที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพมาให้ใช้อีกเพียบ อาทิ ฟังก์ชันปรับแต่งสีผิว (Flesh Tone), ฟังก์ชันปรับแต่งความคมของภาพ (Edge Enhancement), ฟังก์ชันปรับระดับความเข้มของฉากมืด (black level) สำหรับสัญญาณภาพแบบดิจิตอลทางช่อง HDMI ฯลฯ 

มี โหมดปรับเลือกขนาดของภาพ (Zoom Mode) ได้หลายแบบ ไว้ให้ใช้ในกรณีที่ป้อนสัญญาณภาพฟอร์แมต 4:3 เข้าไปแล้วอยากจะดูแบบเต็มจอ (ตัวอย่างเช่นภาพจากสถานีโทรทัศน์), มีฟังก์ชันที่ช่วยปรับปรุงเกี่ยวกับโมชั่น หรือการเคลื่อนไหวของภาพให้มีความรื่นไหลมากยิ่งขึ้น (ชื่อฟังก์ชัน ‘Movie Plus’) และอื่นๆ อีกมาก      

จาก ภาพของ LA32A650 ที่เห็นหลังการปรับแต่งแล้ว มันเป็นลักษณะของภาพที่ดูต่างจากภาพที่ได้จาก LCD-TV ยุคก่อนๆ พอสมควร ส่วนที่ดูโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิมนั้นมีอยู่ 2 ประการด้วยกัน อย่างแรกคือ ‘มิติของภาพ’ ที่ดูดีขึ้น เนื่องจากแอลซีดี-ทีวีตัวนี้ให้พื้นแบคกราวนด์ของภาพในฉากมืดๆ ได้ดำสนิทมากขึ้นกว่าแอลซีดียุคก่อนๆ มาก ในขณะที่จุดสว่างของภาพ (high light) ก็มีความสดใสและมีพลังของแสงที่แจ่มจ้า ซึ่งเป็นผลที่ได้มาจากคุณสมบัติทางด้าน contrast ratio ของจอที่สูงถึง 15,000:1 นั่นเอง ส่งผลให้มุมมืดในฉากหนังที่ดูด้วยแอลซีดีตัวนี้มีสีที่ดำเข้ม ไม่ได้ออกฝ้าๆ มัวๆ เหมือนจอแอลซีดีรุ่นเก่าๆ ภาพที่ได้จึงดูมีมิติตื้น-ลึกมากขึ้น ตัววัตถุในภาพมีลักษณะที่ลอยเด่นออกมาจากฉากหลังมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ตรงจุดที่เป็นไฮไลต์ของภาพ (จุดที่มีความสว่างสูงสุดของภาพ) ก็ให้พลังแสงที่เจิดจ้า และให้จุดแสงที่คม ไม่ฟุ้งเป็นฝ้า ส่งให้ภาพที่เป็นฉากกลางวันซึ่งถ่ายทำกลางแจ้ง มีความแผดกล้าของแสงแดดที่สมจริงมากยิ่งขึ้น แม้จะลองดูในสภาพแสงที่มีความสว่างของหลอดไฟนีออนอยู่ค่อนข้างมากอย่างห้อง รับแขกทั่วไป แสงไฟเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ความสดใสเจิดจ้าของภาพที่ได้จากแอลซีดีตัวนี้ลด ด้อยลงไปมากอย่างที่กังวล แสดงว่าความสว่างของจอภาพที่ระดับ 550 cd/m2 นั้นมากพอสำหรับการใช้งานในสภาพแสงสว่างปานกลาง

ต้อง ยอมรับว่า คอนทราสต์ของภาพที่ได้จาก LCD-TV ของซัมซุงตัวนี้ดีกว่าที่เคยเห็นจากแอลซีดี-ทีวีอื่นๆ มากทีเดียว และเมื่อผ่านการปรับแต่งภาพเสร็จแล้ว พบว่า ภาพที่ได้จากแอลซีดี-ทีวีตัวนี้จะดูสบายตามากทีเดียว น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่าภาพของมันไม่สว่างมากซะจนจ้าตามากเกินไปเหมือนอย่าง ที่เคยเจอจากแอลซีดี-ทีวีรุ่นก่อนๆ

ถือว่าเป็นแอลซีดี-ทีวีที่ให้ภาพนุ่มนวลตามากที่สุดอีกเครื่องหนึ่งเท่าที่ผมเคยดูมา.. 
และ เมื่อชมจากหนังที่บันทึกมาด้วยฟอร์แมต High Def 1080p แล้ว ต้องขอบอกเลยว่า ภาพมันคมชัดอย่างชนิดที่พูดได้ว่า บาดตาบาดใจจริงๆ เลย..!!

LA32A650 ให้ลำโพงมาสองตัวติดตั้งไว้บริเวณด้านหลังของขอบจอด้านล่าง ยิงเสียงลงพื้นให้กระจายออกไปแบบหลายทิศทาง ใช้ระบบเสียง SRS Trusurround XT ช่วยในการ downmix หรือผสมเสียงเซอร์ราวนด์ทุกรูปแบบให้ลงมาอยู่ในรูปแบบที่สามารถเล่นบนลำโพง 2 ตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ยังมีโหมดการปรับแต่งเสียงมาให้ใช้อีกสอง-สามรายการ ซึ่งจากการทดสอบฟังว่า เมื่อเล่นสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 Ch. จากภาพยนตร์ที่บันทึกบนแผ่นดีวีดีกับแอลซีดี-ทีวีตัวนี้ พบว่า มันให้เสียงที่โปร่งลอยออกมา ฟังสบายไม่อึดอัด มีการแยกแยะตำแหน่งเสียงที่ชัดเจน ไม่ปะปนจนมั่ว ได้เวทีเสียงที่กว้างขวาง แม้ว่าเสียงทุ้มจะไม่ถึงกับแน่นกระชับมากเหมือนฟังกับระบบเสียงแบบแยกชิ้น แต่ก็ไม่ถึงกับขาดแคลน ยังสามารถรับรู้ได้ถึง ‘ความแน่น’ ของเสียงได้อยู่  
 
สรุป
หลัง ทดสอบเสร็จแล้ว มีอยู่ 3 จุดสำหรับแอลซีดี-ทีวีของซัมซุงตัวนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ จุดแรกคือความสวยของตัวเครื่อง ซึ่งยอมรับเลยว่า เวลายกเอาไปวางไว้บนโต๊ะรับแขกที่บ้านแล้ว มันช่างงามซะเหลือเกิน ช่วยเพิ่มสง่าราศีให้กับห้องรับแขกขึ้นมาอีกอักโข จุดที่สองที่ผมชอบคือความคล่องตัวในการใช้งานที่รอบตัวมาก บันเทิงก็ได้ ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ก็ได้ และข้อที่สามก็คือ คุณภาพของภาพที่ออกมาดีกว่าแอลซีดี-ทีวีทั่วไปมาก โดยเฉพาะคอนทราสต์นั้นดีเยี่ยมจริงๆ เหนือชั้นกว่าแอลซีดี-ทีวีตัวอื่นๆ ที่เคยดูมามาก สีสันก็สดใส รายละเอียดก็ดี ในขณะที่แสงสว่างก็ไม่จ้าตาเกินไป!


เป็น แอลซีดี-ทีวีเครื่องแรก.. ที่ผมใช้ดูหนังจากแผ่นดีวีดีและบลู-เรย์ฯ ได้อรรถรสจนจบแผ่นอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกระคายเคืองตาเลยแม้แต่น้อย

แนะนำเป็นพิเศษครับ สำหรับแอลซีดี-ทีวีตัวนี้.!! ? 
....................................................................................................
 
อุปกรณ์ร่วมทดสอบ:
เครื่องเล่นดีวีดี :
 Oppo DV-983H
เครื่องเล่นบลู-เรย์ : Pioneer LX-70A
แอมป์เซอร์ราวนด์ : Marantz SR8002
สาย HDMI : QED Qunex
สายไฟเอซี : Furutech Power Link-400
เอซี-ดิสทริบิวเตอร์ : Clef PowerBRIDGE-8
ชั้นวางเครื่อง : Rezet
....................................................................................................
 
ตัวแทนจำหน่าย :
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
โทร.0-2695-9000
ราคา :
39,330  บาท/ต่อตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook