นิวยอร์กไทมส์จ่อเก็บตังค์ผู้อ่านออนไลน์

นิตยสารนิวยอร์กรายงานว่า หนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทมส์ (The New York Times) พร้อมที่จะเริ่มเก็บค่าบริการผู้อ่านที่ต้องการอ่านข่าวจากทางเว็บไซต์แล้ว โดยคาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ ซึ่งแผนการเก็บค่าบริการโดยคร่าวๆ ผู้อ่านจะสามารถเข้าถึงข่าวฟรีได้จำนวนจำกัดก่อนที่จะถูกเชิญให้เป็นสมาชิก

รายงานข่าวดังกล่าวยังอ้างอีกด้วยว่า นิวยอร์กไทมส์ น่าจะอยู่ในระหว่างการทำข้อตกลงกับแท็บเล็ตของแอปเปิล ซึ่งคาดว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะมีการเปิดตัวในวันที 27 มกราคม ที่จะถึงนี้ โดยเแอปเปิลเองก็ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า ทางบริษัทกำลังเจรจากับบริษัทผู้ผลิตสื่อต่างๆ ในออสเตรเลีย เพื่อให้ผลิตคอนเท็นต์ที่สามารถเข้าไปใช้ในแท็บเล็ตได้ อย่างไรก็ตาม Diane McNulty ตัวแทนจากนิวยอร์กไทมส์ได้กล่าวในทำนองที่ว่า การเปลียนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ทีให้บริการอ่านข่าวเร็วๆ นี้ "เราจะประกาศการตัดสินใจ เมื่อเราเชื่อว่า ได้คำตอบทางธุรกิจที่ชัดเจนแล้ว"

เมื่อ ผู้อ่านส่วนใหญ่ขึ้นไปข่าวบนออนไลน์ สมาชิกหนังสือพิมพ์ก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับรายได้จากโฆษณาที่ลดต่ำลงด้วย ผลกระทบจึงเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรม ผู้ผลิตหนังสือพิมพ์ต่างตำหนิกูเกิ้ล และเว็บไซต์รวบรวมข่าวทั้งหลายที่เป็นภัยคุกคามของธุรกิจ ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจเริ่มเก็บค่าบริการจากผู้อ่านออนไลน์ ความจริงข่าว การเก็บค่าบริการดังกล่าว นิวยอร์กไทมส์ได้เปิดเผยมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แต่ในทางตรงกันข้าม หนังสือพิมพ์ San Francisco Chronicle ได้พยายามผลักผู้อ่านให้กลับไปอ่านหนังสือพิมพ์จริงด้วยการโปรโมทว่า เฉพาะในสิ่งพิมพ์เท่านั้น (print-only-content) ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในเว็บไซต์หนังสือ พิมพ์

ในบรรดาหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ขณะนี้มีเพียง Wall Street Journal เท่านั้นที่ได้มีการเก็บค่าบริการสมาชิกผู้อ่านออนไลน์ โดย New York Times ได้เลิกการทดลองเก็บค่าบริการไปเมื่อปี 2007 โดยให้เหตุผลว่า ค่าสมาชิกมันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับมูลค่าโฆษณา แต่ในทีสุดก็ต้องหันมาใช้วิธีนี้ อย่างไรก็ตาม งานนี้นิวยอร์กไทมส์ต้องเดิมพันกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้พอสมควร เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้อ่านออนไลน์ส่วนใหญ่ไม่ต้องการจ่ายตังค์สำหรับการอ่านข่าวบนเว็บ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่คิดว่าสามารถจ่ายได้ แต่ค่าบริการต้องอยู่ระหว่าง 1- 10 เหรียญฯ (ไม่เกิน 350 บาท) ต่อเดือนเท่านั้น

ข้อมูลจาก: nymag