เกาะกระแสคนดังติดสังคมออนไลน์...

เกาะกระแสคนดังติดสังคมออนไลน์...

เกาะกระแสคนดังติดสังคมออนไลน์...
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าเอ่ยปากถามถึง การสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ น้อยคนที่จะไม่รู้จัก เว็บไซต์เฟซบุ๊ก หรือ ทวิสเตอร์ รวมถึง แบล็กเบอร์รี่ (บีบี) "สมาร์ทโฟน" ซึ่งกำลังเป็นที่ชื่นชอบหลายๆ คน ด้วยข้อดีที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานโดยเน้นการสื่อสารที่เข้าถึงง่าย ทั้งยังเป็นจุดที่ผู้ใช้สามารถแสดงความเป็นตัวตนได้สูง เนื่องจากคนในปัจจุบันต้องการอะไรก็ตามที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นคนรุ่นใหม่คลั่งไคล้เทคโนโลยีแห่งการติดต่อพูดคุย จนบางคนถึงกับไม่เป็นอันทำการทำงานกันทีเดียว

เริ่มต้นที่คนรุ่นใหม่อย่างสาวเดบูตองส์ปีล่าสุด "พิม" ริตา จิรา ถึงแม้จะอยู่ในวัยกำลังศึกษาเล่าเรียน แต่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงินๆ ทองๆ จึงเป็นอีกคนที่ก้าวเข้าสู่สังคมออนไลน์สุดฮิตนี้ ซึ่งเธอให้เหตุผลอย่างน่าสนใจว่า ในยุคสมัยนี้เป็นยุคแห่งมัลติฟังก์ชันก้าวล้ำ จึงเป็นเหตุให้เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมามาก อย่างเช่นที่เป็นกระแสนิยมในกลุ่มวัยรุ่น คงหนีไม่พ้นเฟซบุ๊กหรือบีบี ที่ทั้งใช้งานได้ง่าย สะดวก และสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ ได้อย่างรวดเร็ว

 "สำหรับตัวเองแล้วเป็นคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นประจำทุกวัน อย่างเฟซบุ๊กก็ชอบเปิดดูบ่อยๆ เพื่อคอยอัพเดทข้อมูลต่างๆ เพราะรูปสามารถลิงก์เข้ากับบีบีได้ แถมฟังก์ชันมีให้เลือกหลากหลายอีกด้วย แต่ไม่ถึงกับนั่งจ้องอยู่หน้าคอมพ์ ส่วนบีบีก็ชอบใช้ เพราะพกพาสะดวกไปได้ทุกที่ ติดต่อกับเพื่อนได้ง่าย ขณะที่เพื่อนๆ บางคนกลับชอบเกมต่างๆ ในเฟซบุ๊กถึงกับต้องนั่งอยู่หน้าคอมพ์เป็นเวลานานสองนาน" สาวเดบูตองส์กล่าว



 กระนั้นสาวน้อยตัวแทนคนรุ่นใหม่ก็ยังฝากเตือนสตินักออนไลน์ทั้งหลายด้วย ว่า หากรู้จักใช้เทคโนโลยีต่างๆ อย่างมีสติและรอบคอบ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่ชีวิต มากกว่าจะส่งผลเสีย อีกทั้งยังไม่ทำร้ายตัวเองด้วย

 ขยับมาที่สาวรุ่นใหญ่อย่าง "น้อยหน่า" เพ็ญสุภา คชเสนี ผู้จัดการฝ่ายสังคม โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล ที่ยอมรับว่าสำหรับตัวเธอนั้น การออนไลน์นับเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันเลยทีเดียว โดยเฉพาะ "บีบี" ซึ่งแต่ละวันจะส่งข้อความและรูปภาพระหว่างเพื่อนในกลุ่มที่ใช้ด้วยกันตลอด เวลา เรียกได้ว่าผูกพันมากจนบางครั้งคิดว่ามากเกินไปจนถึงขั้นเสียมารยาทเลยที เดียว ส่วนเฟซบุ๊กก็เข้าไปอัพเดทและใส่รูปเกือบทุกวัน แต่สำหรับทวิสเตอร์จะไม่ค่อยได้ใช้มากเท่ากับสองตัวแรก จะเข้าไปเป็นบางครั้งบางคราวเพื่ออ่านข่าวของคนอื่นเท่านั้น

"บีบีจะเป็นตัวที่ใช้งานมากที่สุด เพราะใช้เป็นโทรศัพท์ด้วย แต่ละวันจะใช้ส่งข้อความและส่งรูปภาพ โดยเฉพาะข้อความ แต่บางครั้งก็ใช้มากไปจนเกินขอบเขต อย่างไปทานข้าวกับเพื่อน แทนที่จะคุยถามถึงสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันและกัน แต่ทุกคนกลับควักสมาร์ทโฟนออกมาเล่น ไม่มีการพูดคุยกันในโต๊ะอย่างที่ควรจะเป็น จนมองว่าเจ้าเทคโนโลยีล้ำสมัยตัวนี้ทำให้คนขาดความใกล้ชิดกัน แต่ในทางตรงกันข้าม การติดต่อสื่อสารลักษณะนี้ก็มีข้อดีอยู่มาก เช่น ช่วยกระจายข่าวสารไปได้อย่างรวดเร็ว หรืออย่างในช่วงเวลารถติดก็สามารถเอาบีบีออกมาดูนั่นดูนี่ได้เพลินๆ ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องใช้ให้อยู่ในขอบเขตและมีวิจารณญาณ จะต้องไม่ทำให้เสียงาน ครอบครัวมีปัญหา หรือการลงรูปในเฟซบุ๊กก็ควรเลือกรูปที่เหมาะสม ไม่ใส่รูปที่ล่อแหลมอนาจาร เพราะหากหลุดออกไปอาจมีผลเสียตามมาได้" สาวกบีบีกล่าว

 ด้านสาวนักเขียนมากความสามารถ พลอย จริยเวช เป็นอีกคนที่ยืนอยู่ในสังคมแห่งโลกไซเบอร์เช่นกัน โดยเธอกล่าวว่า พอดีทำงานอยู่บ้านและลักษณะงานก็ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ขณะเดียวกันก็จะเปิดเฟซบุ๊กไว้ด้วย ถ้ามีเวลาก็อาจจะแว้บเข้าไปดูบ้างเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องแบ่งเวลาเล่นเป็นจริงเป็นจัง อีกอย่างมีรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เหมือนกัน เช้าๆ ก็จะทักทายกันผ่านเฟซบุ๊กเป็นประจำ เหมือนไปสภากาแฟทุกเช้าโดยต่างคนต่างอยู่ที่บ้าน สำหรับตัวเองถ้ามีสติใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ และลำดับความสำคัญได้ คิดว่าเป็นความรื่นรมย์ของการใช้ชีวิตในยุคนี้มากกว่า

 "เป็นคนเคารพสิทธิส่วนตัว ถ้าใครสามารถจัดลำดับความสำคัญของชีวิตได้ และไม่กระทบกระเทือนกับหน้าที่การงานก็คิดว่าไม่เป็นไร อยู่ที่สติ บางทีออฟฟิศบางแห่งก็ล็อกไว้ก็แล้ว แต่มีเพื่อนบางคนบอกว่าลูกค้าขอความร่วมมือให้ใช้บีบี เพราะติดต่องานสะดวกกว่าช่องทางอื่น ถ้าสะดวกกว่าก็ใช้ไป เป็นอุปกรณ์เสริมการทำงาน สมัยนี้เป็นยุคมัลติฟังก์ชันอยู่แล้ว เป็นหนึ่งในปัจจัยชีวิตของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวเป็นคนไม่สนใจสังคมว่าจะมองอย่างไร โลว์เทคหรือเปล่าถ้าไม่มีใช้  ไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิต รู้สึกว่าทำไมคนถึงตื่นตระหนก เป็นเรื่องการจัดเวลาและควบคุมตัวเองมากกว่า เป็นกระแสโลกที่ต้องปรับตัว ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่สำคัญต้องมีสติกับมันคุมมันอยู่ ไม่ใช่ให้เทคโนโลยีมาคุมเรา" ไฮโซไฮเทคกล่าว

ฟังเสียงจากฟากผู้หญิงกันไปแล้ว ลองมาฟังความคิดเห็นของหนุ่มนักธุรกิจไฟแรง "จิน" จรินทร์ ธรรมวัฒนะ  ซึ่งมองว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทต่อสังคมอย่างมาก จนกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของหลายๆ คนไปแล้ว โดยส่วนตัวจะพกพาบีบีและใช้งานตลอดเวลา  ทั้งแชทคุยกับเพื่อนๆ และใช้เช็กอีเมลบ้าง เอาเป็นว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบขึ้นมาอัพเดทตลอด บางครั้งขนาดอยู่ในห้องประชุมยังต้องแอบหยิบขึ้นมาดูเป็นระยะ จนทำให้เสียบุคลิกไปเลย ซึ่งคิดว่าวันๆ ตัวเองใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าบีบีประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้  แต่สำหรับเฟซบุ๊กก็มีเข้าไปอัพเดทรูปบ้าง แต่ก็นานๆ ครั้ง ไม่บ่อยเท่ากับบีบีที่เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ที เดียว


ด้านหนุ่มติสต์ "อาร์ต" ม.ล.อภิชิต วุฒิชัย ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีสุดฮิตว่า แม้จะมีข้อดีตรงที่รวดเร็วทันใจอยากได้อะไรหรือต้องการหาข้อมูลเพียงกดนิ้ว ลงบนแป้นคีย์บอร์ดพรวดเดียวก็ได้ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชีวิตในแต่ละวันจะต้องติดต่อสื่อสารกับผู้คนมากหน้า หลายตาก็ตาม แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอแยกเทคโนโลยีกับชีวิตมนุษย์ให้ออกห่างกัน  ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเขาไม่ใช่สาวกเทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้แบบสุดลิ่ม ทิ่มประตู หากจะใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเฟซบุ๊กก็ชอบเล่น แต่จะไม่รับใครพร่ำเพรื่อ เพียงแต่เอาไว้ติดต่อเพื่อนเก่า หรือคนที่รู้จักจริงๆ เท่านั้น ขณะที่ทวิสเตอร์ก็มีเล่นบ้าง เพื่อให้รู้ให้ทันเทคโนโลยีว่าเขาเดินไปถึงจุดไหนกันแล้ว ไม่มีความประสงค์จะตามใครหรือให้ใครมาตาม

 ทั้ง "บีบี" "เฟซบุ๊ก" "ทวิสเตอร์" หรือโปรแกรมแชทอื่นๆ ไม่ต่างอะไรกับ "เหรียญสองด้าน"  และ "ดาบสองคม" ซึ่งล้วนมีทั้งคุณและโทษในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสติผู้ใช้แล้วล่ะว่าจะเลือกเป็น "ผู้ใช้" หรือ "ถูกใช้" มากกว่ากัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook