9 เหตุผลหลักของคนเดินงาน CEMart

 ระหว่างวันที่ 25-29 สิงหาคม 2553 จะมีงานใหญ่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อว่างาน CeMart (ซีมาร์ต)  ซึ่งจะเป็นงานที่แสดงความก้าวหน้าของเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่งานโชว์หรืองานขายของอย่างเดียว แต่ทีมงานคอมมาร์ตเป็นผู้จัดก็ต้องนำทั้งด้านความรู้ พร้อมทั้งสินค้าโปรโมชันที่ไม่เหมือนใครมาให้เขาชอปให้ราคาสุดคุ้มแน่นอน ด้วยเหตุผลเช่นนี้เราลองไปสำรวจว่าเหตุผลใดเราถึงต้องไปงาน CeMart

 

9 เหตุผลหลักของคนเดินงาน CEMart

1. โปรโมชันอัพเดตก่อนใครใน Cemartthailand.com
ก่อนที่จะเข้าไปซื้อสินค้า คงต้องมีการตรวจสอบราคากันสักหน่อย แน่นอนว่าทีมงานก็ได้เตรียมเว็บไซต์ www.cemartthailand.com ไว้สำหรับเตรียมสอบราคาโปรโมชันของงานและราคาแต่ละสินค้า โดยจะเริ่มให้เราตรวจสอบกันแล้ว แต่ถ้าให้ดีก็คงต้องเข้าไปดูภายในเว็บไซต์ในช่วงระยะก่อนงานหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งจะมีโปรโมชันอัพเดตให้ตลอดเวลา หรือใครที่เป็นติดตามทาง Facebook ก็สามารถเข้าไปเป็นเพื่อนของเราได้ที่ facebook.com/cemartthailand หรือติดตามจาก Twitter ได้ที่ @cemartmag

2. โปรโมชันบัตรเครดิต
ช่วงนี้การแข่งขันของบัตรเครดิตสูงมากๆ แต่ละบัตรก็มีการแข่งขันให้ส่วนลดมากมาย โดยเฉพาะรายการผ่อน 0% ที่มีให้เลือกมากมาย พร้อมทั้งยังรับส่วนลดเพิ่มเติมได้อีก และที่สำคัญราคาถูกกว่าเงินสดซะด้วย ใครที่ต้องการมองหาสินค้าอะไรอยู่ ก็ลองมองๆ รายการโปรโมชันของบัตรเครดิต และรายการเพิ่มเมื่อซื้อแต่ละสินค้า และที่สำคัญก็ควรเตรียมวงเงินที่จะซื้อด้วย ไม่งั้นก็อดของแจกของแถม

3. ไม่ต้องเอารถมา ก็เดินทางสะดวก
เหตุผลหนึ่งของการจัดงานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็เนื่องจากการเดิน ทางจากที่ไหนก็ตาม มายังศูนย์ประชุม ถือว่ามีเส้นทางสำคัญก็สะดวกต่อการเดินทางมากก็คือ การใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยลงที่สถานีศูนย์ประชุมสิริกิติ์แล้วเดินขึ้นมาก็สามารถเข้าไปใช้บริการ ซื้อของภายในงาน CEMart ได้แล้ว เมื่อซื้อเรียบร้อยแล้วก็สามารถเรียกใช้บริการรถสาธารณะได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าไม่ต้องเหนื่อยกับการวนรถให้เสียเวลาอีกด้วย

4. ราคาแตกต่างจากข้างนอกไหม
ส่วนใหญ่การจัดงานแสดงสินค้า แน่นอนว่าต้องมีไฮไลท์และโปรโมชันที่น่าสนใจภายในงาน ราคาส่วนใหญ่ที่จะเราไปเดิน ก็จะมีราคาที่แตกต่างจากการซื้อของข้างนอกแน่นอน เนื่องจากผู้ออกบูธแต่ละรายก็ต้องการยอดการซื้อของที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ราคาแต่ละอย่างก็จะต้องมีรายการเพิ่มเติมให้กับผู้ซื้อแน่นอน รวมทั้งส่วนลดอื่นๆ พร้อมทั้งของแจกจากบูธใกล้เคียงกันอีกด้วย

5. พร้อมก็ต้องเตรียมตัวก่อนเข้างาน
เนื่องจากการจัดงาน CEMart จะมีด้วยกัน 5 วัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันพุธ ถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. แน่นอนว่ารายการโปรโมชันบางอย่างต้องมีการจำกัดจำนวน เราก็ควรศึกษารายละเอียดของแต่ละโปรโมชันและรอบเวลาของการทำโปรโมชันของแต่ ละสินค้าที่ต้องการจะซื้อมาให้พร้อม หรือใครยังตัดสินใจเลือกซื้อยังไม่ได้ ภายในงาน CEMart ก็จะมีน้องๆ ที่เป็น Buyer Guide ที่ช่วยแนะนำการเลือกซื้อสินค้าของแต่ละรุ่นให้เรียบร้อยแล้ว น้องๆ เหล่านี้ก็ได้รับการอบรมของแต่ละเวนเดอร์ของผู้ขายสินค้ามาเป็นอย่างดี สามารถบอกรายละเอียดของสินค้า พร้อมทั้งแนะนำลักษณะตามความจำเป็นของแต่ละบุคคล เพราะความต้องการใช้งานแต่ละคนที่แตกต่างกันไป สินค้าที่แนะนำก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานได้จริง ซึ่งมั่นใจอย่างหนึ่งได้ว่า ทางน้องๆ ทีมงาน Buyer Guide เป็นกลางทุกคน จะไม่โน้มเอียงให้กับแบรนด์ใดเป็นพิเศษ เพราะเราเชื่อว่าสุดท้ายการซื้อของแต่ละบุคคลก็ยังต้องเป็นคุณที่เลือกซื้อ อยู่ดี

6. Workshop กันสักนิดเพื่อความมั่นใจ
สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจที่เลือกซื้อสินค้า LCD TV ทางทีมงานก็มีเวิร์กชอปให้คุณได้เข้าไปฟัง โดยงานนี้ก็ยังได้เชิญกูรูทางด้านเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้คำแนะนำสำหรับคนที่ ต้องการซื้อของ ไม่เพียงแค่เลือกซื้อเท่านั้น ยังเพิ่มเติมด้วยกูรูทางด้านศาสตร์ของฮวงจุ้ย ให้คุณได้รู้จักวิธีการจัดวางสินค้าแต่ละประเภทให้ถูกหลักทางโหรศาสตร์ อันนี้ไม่เชื่อก็อย่าเพิ่งลบหู่กันเลยนะ
หรือจะเลือกฟังเวิร์กชอปแปลกๆ อย่างการนำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาผสมกับ LCD TV อย่างการใช้บล็อกของฮาร์ดดิกส์มาต่อเป็นมัลติมีเดียบล็อกเซตที่ช่วยให้คุณ สามารถดูภาพยนตร์ หรือฟังเพลงสบายๆ ด้วยคุณคมชัด เทียบชั้นบลูเรย์กันเลย ทำอย่างไรก็ต้องเข้าไปดูรายละเอียดวันเวลาและสถานที่ได้จากเว็บไซต์ของ CEMart

7. สินค้าภายในงานมีอะไรบ้าง
แน่นอนว่างาน CEMart เป็นงานเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าที่เราจะพบกันภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ทั้ง LCD TV และ LED TV 3D รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีให้เลือกตั้งแต่หน้าจอขนาด 29 ขึ้นขึ้นไป มีให้เลือกราคาตั้งแต่หมื่นต้นๆ จนถึงราคาเป็นแสนบาท อุปกรณ์ต่อพ่วงกับโทรทัศน์ก็มีให้เลือกกันครบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นดีวีดี เครื่องเล่นบลูเรย์ หรือสายต่อพ่วงต่างๆ ที่ต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสาย AV, HDMI รวมทั้งปลั๊กต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของการต่อพ่วง

แอร์ ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านก็มีให้เลือกกันหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน ไม่เพียงเท่านี้อุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก็ยังมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ มาให้เลือกจากแบรนด์ชั้นนำ และโอเปอร์เรเตอร์รายใหญ่ของเมืองไทยก็เตรียมมาออกบูธอย่างอลังการ

8. ประมูลสินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ ได้ที่เวทีกลาง
ครั้งนี้ทางทีมงานก็ยังได้เตรียมสินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้ประมูลกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพัดลมไร้สาย กรอบรูปดิจิตอล และที่สำคัญก็คือ สินค้ายอดฮิตอย่าง iPhone 4 ซึ่งเป็นเครื่อง Unlock สามารถใส่ซิมใช้งานได้ทันที โดยนำเข้ามาเพื่องานนี้ ใครยังหาซื้อไม่ได้ ตอนนี้มาให้ประมูลในงาน CEMart กันแล้ว โดยสินค้าทั้งหมดนี้จะมีการประมูลในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้

9. ก่อนกลับอย่าลืมสิ่งสำคัญ
นอกจากตรวจสอบรายการสินค้าที่เลือกซื้อแล้ว ก็อย่าลืมแวะที่จุด Big Plus ซึ่งจะเป็นจุดที่ให้คนที่ซื้อของครบตั้งแต่ 3,000 บาท สามารถลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน 4 สร้อยคอทองคำ 25 สตางค์ 20 เส้น และของรางวัลอื่นๆ มูลค่ากว่า 5 แสนบาท

สำหรับคนที่เคยไปงานคอมมาร์ตและไปแลกคูปองที่บูธบิ๊กโบนัสเป็นประจำอยู่แล้ว คงคุ้นเคยกับระบบใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่เคยใช้บริการ ผมแนะนำให้เตรียมนามบัตรติดไปพร้อมกับใบเสร็จรับเงินและไปยื่นที่บูธ Big Plus กันเลย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการกรอกคูปองให้ เพราะเราจะใช้ระบบไอทีเพื่อความสะดวกกับผู้ซื้อของ โดยจะกรอกข้อมูลต่างๆ พิมพ์เป็นคูปองมาให้ผู้ซื้อเท่านั้น แค่นี้คุณก็มีหน้าที่เพียงส่งคูปองชิงโชคเท่านั้น ไม่ต้องกรอกรายละเอียดที่อยู่ในยุ่งยากอีกด้วย

เพียงเท่านี้ ทุกคนก็จะได้เพลิดเพลินกับการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด รับรองว่าถึงแม้ว่า CEMart จะเป็นน้องใหม่ของงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ด้วยทีมงานคอมมาร์ต ก็สามารถรับประกันทั้งคุณภาพและราคาได้เป็นอย่างดี