รวมสุดยอดข่าวไอที ส่งท้ายปี 2010

กลับมาอีกครั้ง ตามคำเรียกร้อง ส่งท้ายปี 2010 กับการรวบรวมข่าวสารด้านวงการไอทีบ้านเราที่ผ่านมาในรอบปีที่ผ่านมา ตัวไหนเด็ด ตัวไหนดัง หรือแม้แต่ข่าวสารที่ได้ทำให้ผิดหวังก็ลองไปอ่านกันได้เลย!!

Android Version 2.1 ออกมาให้ได้ใช้กันแล้ว

อันนี้ตามความคาดหมาย หลังจากมือถือที่ใช้ Android 2.1 ตัวแรกคือ Nexus One วางจำหน่าย กูเกิลก็ปล่อยโค้ดของ Android 2.1 ขึ้นไปบนเว็บไซต์ของ Android ตามกระบวนการปกติ Android 2.1 ไม่เปลี่ยนไปจากAndroid 2.0 มากนัก เข้าใจว่ารุ่นนี้ยังใช้โค้ดเนม Eclair รวมกับรุ่น 2.0 อยู่ ยังไม่เรียกว่า "Flan" ซึ่งคงจะเป็นโค้ดเนมของรุ่นใหญ่รุ่นถัดไป ต่างจาก 1.5 "Cupcake" และ 1.6 "Donut" ที่เหมือนเป็นรุ่นใหญ่คนละรุ่นเลย (ตอนนี้บนเว็บของ Android เลิกสนับสนุน 2.0 แล้ว เปลี่ยนมาเป็น 2.1 แทน แต่ยังสนับสนุน 1.5 และ 1.6 อยู่เหมือนเดิม) การเปลี่ยนแปลงสำคัญไปอยู่ที่ระดับ API โดยใช้เลขเวอร์ชันของ API เป็น "7" และเพิ่ม API ใหม่ๆ อย่าง live wallpaper และฟีเจอร์ใหม่ของ WebKit อย่าง offline storage หรือ geolocation เข้ามา

เปิดตัวแล้ว iPad แท็บเล็ตตัวใหม่จากแอปเปิล

แอปเปิลเปิดตัวแท็บเล็ตตามคาด สรุปว่าใช้ชื่อ "iPad" หน้าตาของมันคงหาคำอธิบายใดๆ ที่ดีกว่า "iPhone ยักษ์" ไม่ได้ สเปกเบื้องต้นมีดังนี้ หน้าจอ 9.7 นิ้ว ความละเอียด 1024x768 ความหนา 0.5 นิ้ว หนัก 1.5 ปอนด์ (0.7 กิโลกรัม) ใช้ซีพียูของแอปเปิลเองชื่อ Apple A4 ความเร็ว 1GHz  หน่วยความจำภายใน 16-64GB Wi-Fi N, ต่อเน็ตผ่าน 3G ได้ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ครบครัน GPS, Accelerometer ทำงานต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง! คุณสมบัติของเจ้า iPad ที่ได้มาก็คือ ท่องเว็บด้วย Mobile Safari (ที่จอใหญ่กว่า iPhone แสดงผลเว็บเพจได้เต็มตากว่า แต่ยังไม่มี Flash เหมือนเดิม ) โปรแกรมอีเมลแบบ 2 คอลัมน์ แสดงรายการเมล และเนื้อเมลได้พร้อมๆ กัน โปรแกรมดูรูปภาพที่เชื่อมต่อกับ iPhoto ได้ แสดงภาพบนแผนที่ Google Maps ได้ iTunes บนนี้หน้าตาจะกึ่งๆ ระหว่างเวอร์ชันบนเดสก์ท็อปกับบน iPhone แน่นอนว่ามี iTunes Store ในตัว Google Maps พร้อม Street View, ดูวิดีโอ HD จาก YouTube, ซื้อหนังผ่านเน็ตได้

Windows Phone 7 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

วันนี้งานเปิดตัว Windows Phone 7 Series ก็ผ่านไปแล้ว อย่างไรก็ดีตัวโทรศัพท์นั้นน่าจะมาจริงๆ เอาปลายปีนี้จุดเด่นของ Windows Phone 7 Series ก็คือการรวมเอา Xbox LIVES และ Zune เข้าด้วยกันทำให้มันมีจุดแข็งทั้งเกมและเพลง ที่ไอโฟนแข็งแกร่งอยู่ ส่วน Android ยังอ่อนแอ แม้จะยังไม่มีเครื่องมาให้ลองใช้งานจริงๆ แต่ในการเปิดตัวไมโครซอฟท์ก็เริ่มจะเปิดเผยภาพหน้าจอกันออกมาบ้าง จุดสำคัญคือหน้าจอของแต่ละแอพลิเคชั่นนั้นไม่จำเป็นต้องจบลงในหน้าจอเดียว แต่สามารถเลื่อนซ้ายขวาเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ คล้าย Home Screen

เปิดตัว Samsung Halo โทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ที่ใช้จอ Super AMOLED และเป็นโปรเจคเตอร์ในตัว!

ในงาน MWC10 (Mobile World Congress 2010) ทาง Samsung ได้ทำการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่หลายรุ่น  ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Samsung Halo (i8520) ซึ่งเป็นโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่  มีสเปคดังนี้ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.1 (รุ่นล่าสุด) หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ WVGA (ใหญ่กว่า Wave ที่มีขนาด 3.3 นิ้ว) ROM 512MB และ RAM 384MB มีความจุภายใน 16GB และเพิ่ม microSD ได้ มีกล้องหลังแบบโฟกัสอัตโนมัติ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช และกล้องหน้าความละเอียดระดับ VGA ถ่ายวิดิโอได้ที่ 720p สามารถเล่นไฟล์ DivX และ Xvid ได้ รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบ Wifi, Bluetooth และมี A-GPS มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และลำโพงแบบสเตอริโอ แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 1800 mAh รองรับระบบ DLNA มีส่วนติดต่อภายนอกที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ  มีฟีเจอร์พิเศษนั่นคือ เป็นโปรเจคเตอร์ได้ในตัว

WellcoM บุกตลาด Android แล้ว

ในที่สุด WellcoM ผู้ทำตลาดแบรนด์ท้องถิ่นก็นำโทรศัพท์ Android เข้ามาทำตลาดแล้ว โดยระลอกแรกมีสองรุ่นคือ A88, A68 และ A69 A88 นั้นเป็นโทรศัพท์รุ่นสูงที่ทุกอย่างที่โทรศัพท์ Android ควรจะมีไม่ว่าจะเป็น 3G (850/1900/2100), GPS, เข็มทิศ, เซ็นเซอร์, กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช ตัวมันจะมาพร้อมกับ Android 1.6 พร้อมกับชุดซอฟต์แวร์ Google Experience A68 เป็นรุ่นเล็กลงมาแต่มีคีย์บอร์ด QWERTY มาให้ฟีเจอร์ทั่วๆ ไปคือ 3G (850/2100), กล้อง 2 ล้านพิกเซล, และวิทยุ FM แต่ขาด Google Experience ไป ส่วนรุ่นสุดท้ายคือ A69 นั้นเป็นตัวสูงกว่า A68 ขึ้นมานิดหน่อย โดยเพิ่มกล้องเป็น 3 ล้านพิกเซลล และมี GPS แต่เข้าใจว่าตัดเซ็นเซอร์อื่นๆ ออกหมด

Chrome เป็นเบราว์เซอร์ตัวเดียวที่อยู่รอด ติดกันเป็นปีที่สอง

ในงาน Pwn2Own 2009 Safari, IE8, Firefox ตายเรียบ เหลือเพียง Chrome ที่ยังอยู่รอดมาได้ ในปีนี้สถานการณ์เหมือนเดิมทุกอย่าง Chrome ยังเป็นเบราว์เซอร์ตัวเดียวที่ไม่ถูกแฮก แถมยังเป็นปีที่สองติดต่อกัน
หลังจากผ่านมือแฮกเกอร์มาอย่างปลอดภัยได้ในปีก่อน ปีนี้บรรดาแฮกเกอร์ต่างหมายมั่นปั้นมือจะโค่น Chrome ลงให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่มีใครทำสำเร็จ แม้ว่าก่อนแข่งกูเกิลจะรีบออกแพตช์มาป้องกัน Chrome เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเทียบกับ Safari ก็ได้รับแพตช์ในสัปดาห์เดียวกัน กลับโดนสอยติดต่อกันเป็นปีที่สาม กูเกิลอธิบายว่าความปลอดภัยของ Chrome เกิดจากระบบ sandbox ที่ออกแบบมาดี ถึงแม้ว่าเจาะเข้าไปได้แต่แฮกเกอร์จะโดนจำกัดสิทธิ์ไม่ให้ทำอะไรได้มากนัก

กทช. เดินเครื่อง 3.9G เต็มกำลัง

กทช. เร่งผลักดันให้ออกใบอนุญาต 3.9G เตรียมเปิดประชาพิจารณ์ปลายเดือนนี้ เริ่มประมูลเดือน ส.ค. เสร็จสิ้น ก.ย. หวังให้ได้ใช้กันภายในปีนี้ วันที่ 26 พ.ค. 2553 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และประธานคณะทำงาน 3.9 จี เริ่มให้ความชัดเจนว่าการประมูลใบอนุญาตจะเสร็จสิ้นประมาณเดือน ก.ย. ปีนี้และคาดว่าคนไทยจะได้ใช้บริการดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ได้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นแบบโฟกัสกรุ๊ปไปรอบหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นคณะทำงาน 3.9 จีก็จะนำข้อสรุปที่ได้จากโฟกัสกรุ๊ปเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กทช. ในวันที่ 4-5 มิ.ย. นี้ โดยมีสาระสำคัญที่เปลี่ยนจากเดิมให้ใบอนุญาต 4 ใบ (2x10MHz 3 ใบและ 2x15MHz 1 ใบ) เป็นให้ใบอนุญาต 3 ใบ ทุกใบเท่ากันหมดคือ 2x15MHz เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบในการให้บริการและสอดคล้องกับจำนวนคลื่นความถี่ที่ทีโอทีได้รับไปก่อนหน้านี้ ใบอนุญาตมีอายุ 15 ปีเท่าเดิม นอกจากนั้นยังมีนโยบายส่งเสริมMVNO และการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน (infrastructure sharing) โดยการออกใบอนุญาตจะยังคงใช้วิธีประมูลแบบSMRตามเดิม โดยผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องผ่านการพิจารณาคุณสมบัติขั้นแรก (pre-qualification) โดยถ้ามีผู้ที่ผ่าน pre-qualification 3 รายจะมีผู้ชนะการประมูลเพียง 2 ราย แต่ถ้ามีผู้ผ่าน pre-qualification ตั้งแต่ 4 รายขึ้นไปจะมีผู้ชนะประมูล 3 ราย (ข้อนี้ทำให้ True Move ร้อนๆ หนาวๆ) ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการแข่งขัน

มีข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า กทช. เตรียมจะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอีกครั้ง (และคาดว่าคงเป็นครั้งสุดท้าย) สำหรับผู้สนใจทั่วไปในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ และคาดว่าจะเริ่มประมูลกันได้ประมาณเดือน ส.ค. และน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ย. (คณะกรรมการ กทช. อีก 3 ท่านรวมทั้งประธานกรรมการฯ คนปัจจุบันกำลังจะหมดวาระเืดือน ต.ค. นี้) คาดว่าผู้ประกอบการน่าจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า

สำหรับราคานั้นคาดการณ์กันว่าจะเริ่มต้นที่ใบละ 10,000 ล้านบาท (reserved price) ตามที่ พ.อ. นที ได้ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ โดยที่คิดจากมูลค่าของคลื่นที่ประเมินไว้ที่ 12,000 ล้านบาทและคิด reserved price ที่ 80% ของมูลค่าคลื่น

True Online และ TOT เพิ่มสปีดให้ลูกค้าเป็น 6 Mbps ในราคาเดิมแล้ว

เหตุของการอัพเกรดสปีดอินเตอร์เน็ตทั้ง 2 ค่ายนี้ ก็เริ่มมาจากการยิงโปรโมชั่น 5 Mbps ในราคา 590 บาท/เดือนของ 3BB ที่ได้พันธมิตรใหม่เป็น JAS ซึ่งหลังจากที่ 3BB ออกโฆษณาผ่านโทรทัศน์ได้ไม่กี่วัน True Online ก็เป็นค่ายแรกที่ยิงออกมาด้วยการประกาศใน Facebook ของ True Online

โดยทางทรูได้ประกาศว่าจะทำการอัพเกรดความเร็วของลูกค้าในแพ็คเกจ 4 Mbps/512 Kbps ให้เป็น 6 Mbps/512 Kbps ในราคาปกติคือ 599 บาท/เดือน (คนที่ใช้ 4 Mbps/1 Mbps หรือ Online Premium ยังไม่แน่ใจว่าจะปรับให้หรือไม่นะครับ) ซึ่งก็เริ่มปรับความเร็วให้แล้วตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา

ทางด้าน TOT ก็เพิ่งประกาศโปรโมชั่นใหม่ออกมาเมื่อวานนี้ โดยแพคเกจใหม่ที่ได้ประกาศออกมาคือ 6 Mbps/512 Kbps ราคา 590 บาทต่อเดือน และ 9 Mbps/1 Mbps ในราคา 890 บาทต่อเดือน ซึ่งลูกค้า TOT ที่จะทำการอัพเกรดไปยังโปรโมชั่นสองตัวนี้ และยังอยู่ในระยะเวลาของโปรโมชั่นเดิม (ตั้งแต่รอบบิลที่ 1-9) สามารถยื่นเรื่องขออัพเกรดได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะได้รับการยกเว้นค่าเปลี่ยนโปรโมชั่น 1,000 บาทด้วย ส่วนลูกค้าเดิมที่หมดสัญญาอื่นแล้ว หรือสัญญาเดิมยังคงเหลือน้อยกว่า 3 รอบบิลนั้น สามารถเปลี่ยนขึ้นมาได้โดยในรอบบิลที่ 7 เป็นต้นไปจะเสียเพิ่ม 5%

ไอโฟน 4 เปิดขายในไทยแล้ว พร้อมกับราคาของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย
ล่าสุด โอเปอเรเตอร์ ใหญ่ทั้งสามเจ้าก็ได้ปล่อยราคาของ  ไอโฟน 4 อย่าเป็นทางการออกมาสู้กันแล้วค่ะ เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่าเจ้าให้ยิ่งโปรโมชั่นตัวไหนออกมาเป็นไงกันบ้าง

ราคา Apple iPhone 4 จาก Dtac

 ราคา Apple iPhone 4 จาก AIS

ราคา Apple iPhone 4 จาก TrueMove

สิ้นสุดการรอคอย Nikon D7000 กล้องรุ่นใหม่จาก Nikon ที่มาแทน Nikon D90

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมช่วงนี้กล้องจากค่ายต่างๆ ในรุ่นระดับกึ่งสมัครเล่น-มืออาชีพถึงออกมาเยอะ เนื่องจากอยู่ในช่วงงาน Photokina นั้นเอง ในวันนี้กล้องรุ่นใหม่ในชื่อ "Nikon D7000" ได้มีการเปิดตัว ในตัวความสามารถก็ดูจะออกมาเป็นการขั้นกลาง หรืออาจจะเป็นการรวมกันของสาย DX (ชื่อเรียกเซ็นเซอร์ของกล้องตัวคูณของ Nikon) ระหว่าง Nikon D90 และ Nikon D300s ก็เป็นได้ และแน่นอนว่าเป็นแค่บทวิเคราะห์เท่านั้น เพราะยังไม่มีข่าวใดๆ ออกมาว่าจะมีตัวแทนของ Nikon D300s หรือไม่ แต่จากการคาดการณ์คงจะมีเป็น Nikon D9000 มากกว่า เนื่องจากในกล้องระดับบนของสาย DX นั้นใช้ระบบโฟกัสแบบ 51 จุด ซึ่งมากกว่า Nikon D7000 และคาดว่า Nikon คงไม่ทิ้งระบบโฟกัส 51 จุดของสาย DX ที่ตัวเองมีอยู่แน่นอน

คุณสมบัติของ Nikon D7000

• 16.2 megapixels (4,928 x 3,264 pixels)
• ใช้ CMOS sensor ที่ Nikon พัฒนาใหม่สำหรับตระกูล Nikon DX-format เอง
• ช่วงของ ISO ตั้งแต่ 100 ถึง 6400 และเร่ง ISO ได้ถึง 25,600
• บันทึกภาพต่อเนืองได้ที่ 6 FPS
• ระบบโฟกัส 39 จุดบน Multi-CAM 4800DX ตัวใหม่ พร้อมกับจุด cross-type จำนวน 9 จุด
• ระบบโฟกัสรองรับ Dynamic-area AF mode แบบ 9, 21 และ 39 จุด พร้อม 3D-tracking mode
• ตัวกล้องเป็น Magnesium Alloy ทำให้ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับที่ดีขึ้น
• ใช้ SD card และเป็นช่องแบบคู่ (ใส่การ์ดได้ 2 ใบ รองรับ SDXC)
• RAW ไฟล์เป็นแบบ 12 หรือ 14 bit color depth
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ HDMI
• รองรับ Nikon Creative Lighting System (CLS) แบบ 2 กลุ่มอิสระ
• Viewfinder แบบ 100% frame coverage
• แบตเตอร์รี่ถ่ายได้ 1050 รูปต่อการบรรจุไฟหนึ่งครั้ง (มากกว่า 850 รูปใน Nikon D90)
• ใช้ Image Processor "Expeed 2"
• ถ่ายวิดีโอแบบ Full HD (1080p) พร้อม D-Movie โดยที่บันทึกวิดีโอได้ที่ 20 นาทีต่อครั้ง
• ไฟล์วิดีโอเป็น H.264/mpeg-4 โดยให้ไฟล์วิดีโอ เป็น .mov ที่ FPS ที่ 24fps ในโหมด 1080p และ 30fps ที่ HD (720p)
• ตัวกล้องมี Mic แบบ mono พร้อมกับสามารถต่อ external mic ผ่าน stereo mini jack
• รองรับเลนส์ทั้งแบบ G หรือ D บน AF Nikkor Lens (ลบข่าวลือที่ว่าจะไม่รองรับ AF Lens และใช้ได้แค่ AF-S เท่านั้น)
• ชุด Multi-Power Battery Pack ตัวใหม่ MB-D11 ทำให้ใช้กับของเก่าใน Nikon D80 และ Nikon D90 ไม่ได้
• ราคาขายประมาณ $1199 ใน US

ในไทยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 41,000 - 44,000 บาท สำหรับตัวกล้องอย่างเดียวและพร้อมเลนส์ที่ 54,000 บาท

แถมด้วยอีกหนึ่งข่าวร้อนที่ใครก็ต้องรู้

ตำรวจออกหมายจับ ผู้ก่อตั้งวิกิลีคส

หลายคนคงได้รับข้อมูลจากข่าวนี้ไปบ้างแล้ว ยังไงก็เกรินนิดหนึ่งก่อนเพราะการที่เค้าโดนจับนั้นไม่ได้กี่ยวกับเรื่องของเทคโนโลยี เนื่องจาก นายจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ต้องโดนขจับด้วยข้อหา "ล่วงละเมิดทางเพศ"

แต่มีเราบอกว่าเด็ด คือการที่ เว็บไซต์ “วิกิลีกส์” (Wikileaks) ออกมาแฉเอกสารลับทางการทูตของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเอกสารบางส่วนกล่าวถึงคดี นายวิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซียฉายาพ่อค้าความตาย ที่ทางการไทยได้ดำเนินคดีและส่งตัวนักโืทษไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ว และสิ่งที่อยากให้เห็นเพราะมันคือ ผลกระทบที่จะตามมา หลังจากการแฉข้อมูลผ่านโลกออนไลน์ นั้นเอง

อย่างน้อยการแฉครั้งนี้ก็ทำให้มหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา สะเทือนเลยเชียวละ เหมือนคำที่มีคนเคยบอกไว้ว่า "ความจริงที่กำลังจะเกิดมันไม่น่ากลัว แต่สิ่งหน้ากลัวคือเรื่องที่เกิดไปแล้วแต่เรายังไม่รู้"

 

 

สรุปข่าวโดย : Sanook Hitech
ที่มาข่าว : Blognone.com, AIS, DTAC, TRUE, Arip.com, TechXcite.com