360 first review ไปกับ iPhone 4

360 first review ไปกับ iPhone 4

360 first review ไปกับ iPhone 4
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

360 first review ไปกับ iPhone 4


IPHONE 4 ปัญหาการรับสัญญาณอันแปลกพิกลก็ยังไม่สามารถหยุดยั้ง iPhone ใหม่จากการเป็นโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะซื้อได้

1 NOISE-CANCELLING MIC

ไมโครโฟนตัวใหม่สำหรับตัดเสียงรบกวนเพื่อการคุยโทรศัพท์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

2 TWO CAMERAS
กล้องห้าล้านพิกเซลพร้อมแฟลชแอลอีดีที่ด้านหลัง และกล้องที่ด้านหน้าของตัวเครื่องสำหรับฟังก์ชันวิดีโอคอลล์โดยใช้ FaceTime

3 VOLUME CONTROLS
ตอนนี้ปุ่มวอลลุมเป็นแบบแยกต่างหากแล้ว มีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้มือข้างเดียวคลำหาได้ง่ายกว่าปุ่มแบบเดิม

4 STAINLESS STEEL BAND
แถบสีเงินที่เห็นนี้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของเสาอากาศของ iPhone 4 ถ้ามีปัญหาการรับสัญญาณละก็โทษมันได้เลย

5 MICRO SIM

เอาซิมการ์ดขนาดเล็กมาเสียบเข้าไปที่ช่องนี้

ในที่สุด iPhone 4 ก็มาถึงเกาะอังกฤษหลังจากการประโคมข่าวใหญ่โตของสื่อทุกชนิด และกระแสความบ้าคลั่งที่ซัดสาดไปทั่ว ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดีและคาดหวังที่จะเห็นในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Apple แต่ละตัว เป็นครั้งแรกที่มันถูกเปิดตัวที่อังกฤษและสหรัฐฯ พร้อมกันและปรากฏในลิสต์รายชื่อโทรศัพท์ที่มีให้เลือกของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่

ก็อย่างที่รู้ๆ กัน การออกสู่ตลาดไม่ได้ราบรื่นไปเสียทั้งหมดเหมือนอย่างที่ Apple คาดหวังไว้ ถ้าใครถือ iPhone 4 ในลักษณะที่ ‘ไม่ถูกต้อง’ ก็อาจประสบกับปัญหาสัญญาณขาดหาย ก่อนวันที่ 24 มิถุนายน ใครกันละที่จะรู้ว่ามีวิธีที่ ‘ถูกต้อง’ ในการถือโทรศัพท์? ก็คงต้องใช้ไปและเรียนรู้ไปด้วยนั่นแหละ

อย่างไรก็ดี ไม่มีข้อกังขาใดๆ เลยว่า iPhone 4 เป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่งดงามตื่นตาตื่นใจ ตัวเครื่องหนาเพียง 9.3 มม. ซึ่งบางกว่า 3GS 24 เปอร์เซ็นต์ กะทัดรัดเหมาะมือ แต่น้ำหนักมากพอสมควรและดูสวยสะดุดตาในแบบ industrial ด้วยรูปทรงเหลี่ยมๆ แทนที่จะสวยมีเสน่ห์ด้วยรูปทรงโค้งมนแบบ iPhone รุ่นก่อนๆ กระจกด้านหน้าและด้านหลังแข็งแกร่งมาก เราทำเครื่องหล่นลงพื้นหลายครั้งหลายคราแต่มันก็ยิ้มแฉ่งไม่มีอะไรเสียหาย

การออกแบบที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากกว่าคือสันขอบโลหะที่คั่นระหว่างแผงหน้าและแผงหลังเครื่อง สิ่งนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงาม แต่จริงๆ แล้วมันทำหน้าที่เป็นเสาอากาศ และเป็นต้นเหตุของปัญหาการรับสัญญาณของ iPhone ดูเหมือนว่าอาจเป็นที่การสัมผัสระหว่างผิวหนังมนุษย์กับแถบโลหะอะไรสักอย่าง แต่สำหรับเรานั้นเรารู้สึกเฉยๆ กับปัญหานี้ ก็แล้วแต่คนละนะ

ถ้าไม่นับการออกแบบแปลกๆ ที่มีผลต่อการรับสัญญาณที่กล่าวไปข้างต้น เจ้า iPhone 4 เป็นผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและความเก่งกาจด้านการออกแบบของ Apple ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 4 ใหม่และโปรเซสเซอร์ที่เร็วกว่า 3GS เยอะทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและเพลิดเพลินมาก ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างลื่นไหล ตั้งแต่เครื่องเล่นมีเดียไปจนถึงแอพพลิเคชั่นและเว็บบราวเซอร์ซึ่งดีกว่าทุกรุ่นที่เคยมี แม้จะไม่รองรับเว็บไซต์ Flash สำหรับดูวิดีโอก็ตาม เราคิดว่าสิ่งนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ ดังนั้น ถ้าซื้อมันมาใช้ก็จงทำตัวให้คุ้นเคยกับสิ่งนี้ซะ

คุณสมบัติจำเพาะ

  • 59 มม. 115 มม. 9.3 มม.
  • ราคา 32GB: ฿26,000 16GB: ฿22,250
  • จอ 3.5 นิ้ว 960x640 พิกเซล
  • โปรเซสเซอร์ Apple A4 1GHz
  • พื้นที่เก็บข้อมูล 16GB หรือ 32GB
  • ระบบเชื่อมต่อ HSDPA 7.2Mbps, บลูทูธ 2.1+ EDR, Wi-Fi 802.11b/g/n, A-GPS, ช่องต่อสัญญาณเสียง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ สนทนา 3G 7 ชั่วโมง ท่องเน็ตผ่าน Wi-Fi 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตผ่าน 3G 6 ชั่วโมง ดูวิดีโอ 10 ชั่วโมง ฟังเพลง 40 ชั่วโมง
  • กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมระบบโฟกัสด้วยการสัมผัส แฟลชแอลอีดี
  • วิดีโอ 720p ความเร็วสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที
  • ขนาดตัวเครื่อง/น้ำหนัก 59x115x9.3 มม./137 กรัม

จอ Retina Display สว่างกว่าเดิมและสะท้อนแสงน้อยกว่าจอ AMOLED โปรเซสเซอร์ที่ใช้คือชิป Apple A4 อันคล่องแคล่วว่องไวซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้บน iPad คุณคงคิดว่าพละกำลังขนาดนี้คงจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว แต่เรากล้ายืนยันว่าระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ของ iPhone ใหม่นั้นดีกว่า 3GS เล็กน้อย อย่างน้อยก็ดีกว่าในช่วงที่เราทดสอบใช้งานมันละ เราจะเฝ้าจับตามองว่าถ้าใช้งานนานเป็นเดือนๆ แล้วแบตเตอรี่จะอยู่ได้นานแค่ไหนและจะบอกให้คุณทราบ ในที่สุด IOS 4 ก็นำ MULTITASKING มาสู่ IPHONE แต่ตอนนี้ยังไม่รองรับทุกแอพพลิเคชั่น

จอ Retina Display ขนาด 3.5 นิ้ว ดีกว่าจอของ 3GS มาก รวมทั้งจอของโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นทุกยี่ห้อทีมีอยู่ ด้วยคอนทราสต์เรโช 800:1 และความละเอียด 960x640 พิกเซล มันสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับจอโทรศัพท์มือถือ สำหรับการใช้งานในที่ร่มหรือในอาคารนั้นแจ่มมาก ส่วนการใช้งานกลางแจ้งสำหรับระดับแสงส่วนใหญ่ก็ดีเช่นกัน จอจะสะท้อนแสงและดูได้ยากถ้าโดนแสงแดดส่องกระทบโดยตรง แต่ในส่วนนี้ก็ยังเหนือกว่าจอ AMOLED ที่พบเห็นบนโทรศัพท์ Android ส่วนใหญ่เยอะ

ข้อด้อยที่เห็นมีเพียงอย่างเดียวคือแอพพลิเคชั่นเก่าๆ และไอคอนของมันอาจดูล้าสมัยและไม่ถึงกับคมกริบบนจอ Retina Display นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นจะต้องปรับแต่งผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเพื่อให้เหมาะกับจออันยอดเยี่ยมของ iPhone 4

มีอีกอย่างนึงที่พวกเขาอาจต้องตรวจดู นั่นคือการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันที่เรียกกันว่า multitasking iOS 4 นำสิ่งนี้มาสู่รายการคุณสมบัติของ iPhone ตามที่คาดหวังไว้ แต่ในตอนนี้ไม่ใช่ทุกแอพพลิเคชั่นที่รองรับ พวกมันจะต้องผ่านการอัพเดตก่อนจึงจะใช้ได้ น่าติดตามดูว่าคนที่ซื้อ iPhone ไปจะเรียกร้องให้แอพพลิเคชั่นทั้งหมดรองรับการใช้งานแบบ multitasking หรือพวกเขาจะเห็นพ้องต้องกันว่าเฉพาะแค่แอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมและเพลงเท่านั้นที่ควรรองรับ

Killer features…ฟีเจอร์เด่นของ iPhone 4

1 iMovie app
เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 720p และเสียงอันยอดเยี่ยมของ iPhone 4 นักตัดต่อวิดีโอที่ไขว่คว้าทะเยอทะยานแสวงหาผลงานที่ดีจำเป็นต้องมีแอพพลิเคชั่น iMovie ติดเครื่อง (ประมาณ 150 บาท)

iMovie ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดแอพพลิเคชั่น iLife มีขายมานานแล้ว ดังนั้น ระบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟสจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีสำหรับผู้ใช้เครื่องแม็ค การใช้งานบน iPhone 4 ลื่นไหลและง่ายดายพอๆ กันโดยที่โปรเซสเซอร์ A4 ช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น

ใช้นิ้วแตะบนคลิปวิดีโอเพื่อเรียกใช้งานเครื่องมือตัดต่อวิดีโอและดับเบิลคลิกเพื่อเพิ่ม transition เข้าไป สไตล์ต่างๆ นั้นแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับธีมที่คุณเลือกซึ่งมีทั้งหมดห้าธีม ธีม Bright และ Modern เป็นธีมที่เราชอบที่สุด แต่จริงๆ แล้วน่าจะมีให้เราเลือกมากกว่านี้ พอเสร็จแล้วคุณสามารถ export คลิปวิดีโอและเลือกความละเอียดได้สามระดับ ความละเอียดที่ดีที่สุดคือ 720p HD

แอพพลิเคชั่นตัวนี้มีข้อจำกัดในการใช้งาน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับแอพพลิเคชั่นที่มีราคาถูกกว่าเบียร์หนึ่งเหยือก คุณไม่สามารถควบคุมระดับความดังเสียง และเพลงจะต้องเล่นตอนเริ่มต้นของคลิปเท่านั้น การจับถือตัวเครื่องโดยไม่ปิดช่องไมโครโฟนก็ยากนิดนึง

อย่างไรก็ตาม การทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการทำให้ iMovie เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับ iPhone ที่ขาดไม่ได้

2 FaceTime
ยังจำได้มั้ยตอนที่ทุกคนคิดว่าวิดีโอแช็ตจะเป็นอนาคตของการติดต่อสื่อสาร? แต่พอมันออกมาจริงๆ กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครใช้มัน ใช่มั้ยละ อย่างไรก็ดี ตอนนี้ Apple ตั้งความหวังไว้ว่าจะเปลี่ยนสิ่งนั้นด้วย FaceTime ฟังก์ชันวิดีโอคอลล์ของ iPhone 4 อันนี้ใช้กล้อง VGA ด้านหน้าเครื่องในการถ่ายวิดีโอที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาทีขณะสนทนาทางโทรศัพท์

คุณเปิดใช้งาน FaceTime ผ่านทาง Contacts ของคุณแต่ฟังก์ชันวิดีโอคอลล์จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อคนที่คุณโทรไปคุยด้วยมีทั้ง Wi-Fi และ iPhone 4 ของเขาเอง

คุณภาพนั้นดีกว่าฟังก์ชันวิดีโอคอลล์เคลื่อนที่ผ่านเครือข่าย 3G ที่มีอยู่เยอะทีเดียว มันแสดงภาพด้วยความละเอียดที่ดีใช้ได้ ออปชั่นในการสับเปลี่ยนเป็นกล้องด้านหลังเครื่องเพื่อแสดงให้คนที่คุณคุยด้วยมองเห็นว่าคุณกำลังมองอะไรอยู่เป็นลูกเล่นที่แจ๋วมากและอาการหน่วง (lag) หรือสัญญาณรบกวนก็ไม่ปรากฏตราบเท่าที่คุณทั้งสอง (คู่สนทนา) เชื่อมต่อผ่านบรอดแบนด์ที่เร็วใช้ได้

คุณไม่สามารถใช้ฟังก์ชันวิดีโอคอลล์โทรติดต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ จะต้องเป็น iPhone 4 เท่านั้น แม้แต่เจ้าของเครื่องแม็คที่ใช้ iChat คุณก็ใช้ฟังก์ชันนี้กับพวกเขาไม่ได้

FaceTime เป็นไอเดียที่แจ่มทีเดียว แต่ถ้าจะเป็นที่นิยมเราควรจะใช้งานผ่านเครือข่าย 3G ได้และใช้กับอุปกรณ์ตัวอื่นได้ด้วย ฟังก์ชันวิดีโอคอลล์ได้ถูกนำเสนอและผลักดันมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก เราไม่มั่นใจว่าตอนนี้จะมีใครให้ความสนใจกับสิ่งนี้

3 Camera
เสียงบ่นที่ได้ยินอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับ iPhone รุ่นก่อนๆ คือกล้องที่ธรรมดางั้นๆ Apple ปรับปรุงคุณภาพกล้องของ iPhone 4 และเพิ่มความละเอียดเป็นห้าล้านพิกเซล ซึ่งคุณสามารถพิมพ์ภาพขนาด 13x10 นิ้วถ้าชอบละก็

การจัดองค์ประกอบภาพบนจอที่คมชัดนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติและทำได้อย่างเพลิดเพลิน การโฟกัสด้วยการแตะหน้าจอก็เป็นวิธีที่ง่าย มันยังไม่มีปุ่มชัตเตอร์เหมือนเคยแต่ระยะเวลาตอบสนองนั้นเร็ว และคุณสามารถสับเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพนิ่งเป็นโหมดถ่ายวิดีโอได้ในทันที

ภาพดูคมชัดพร้อมคอนทราสต์ที่ดีและสีสันสดใส ภาพถ่ายดูสวยกว่ากล้องของ iPhone 3GS และ HTC Desire แฟลชแอลอีดี หมายความว่าในที่สุดคุณก็สามารถใช้กล้องถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยอย่างในบาร์หรือร้านอาหารแสงไฟสลัวๆ แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเลือกได้เราอยากได้แฟลชซีนอนมากกว่า นอกจากนี้แล้ว คุณยังจะได้ซูมแบบดิจิตอล 5 เท่า ซึ่งใช้ประโยชน์ได้ไม่มากนัก และคุณสามารถใส่ค่าพิกัดลงในภาพได้ด้วย

กล้องของ iPhone 4 นั้นเยี่ยมสำหรับถ่ายภาพแบบฉับพลันขณะอยู่ข้างนอก คุณไม่สามารถตั้งค่าการถ่ายภาพ ซึ่งทำให้มันสู้กล้องคอมแพคท์ไม่ได้ แต่ในแง่ของคุณภาพแล้วภาพถ่ายที่ได้จัดอยู่ในระดับหัวแถวของสมาร์ทโฟนอย่างไม่ต้องสงสัย กล้องถ่ายภาพนิ่งห้าล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 720p ให้ภาพถ่ายสวยกว่า 3GS และ HTC Desire
   
iOS 4 ของ Apple ยังมีลูกเล่นเนี้ยบๆ อื่นๆ ซ่อนอยู่ คุณสามารถสร้างโฟลเดอร์สำหรับแอพพลิเคชั่นของคุณ เป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ และให้คุณเลือกภาพโฮมสกรีนของคุณเองได้ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนที่พื้นหลังจะเป็นสีดำ

iBooks กระโดดจาก iPad มายัง iPhone ด้วยการปรากฏตัวของ iOS 4 และขอบคุณจอ Retina Display ที่แสดงตัวหนังสือได้คมชัดไร้ที่ติ อย่างไรก็ดี ขนาดของจอนั้นไม่เหมาะสำหรับการอ่านอะไรก็ตามนานกว่าครึ่งชั่วโมงหรือราวๆ นั้น รูปแบบตัวอักษร (font) ที่ชัดแจ๋วแหววก็ช่วยให้การท่องเน็ต การใช้งานอีเมล และการใช้งานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อความทำได้ดีขึ้น

กล้องห้าล้านพิกเซล ให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมพร้อมแฟลชแอลอีดีที่สว่าง

คีย์บอร์ดยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงและเยี่ยมเช่นเคย แต่เราอยากเห็นแป้นตัวเลขและเครื่องหมายวรรคตอนรวมอยู่ด้วยกันกับแป้นตัวอักษรเหมือนกับคีย์บอร์ดของ HTC Desire แต่ดูเหมือนว่าระบบแก้ไขคำสะกดอัตโนมัติจะดีกว่าระบบปฏิบัติการตัวก่อน

กล้องก็ดีขึ้นเช่นกัน แต่อย่าคาดหวังสูงเกินไปละ ภาพนิ่งยังไม่ใช่คุณภาพระดับเดียวกับกล้องคอมแพคท์ แต่ก็ดีกว่าภาพถ่ายของ 3GS และ HTC Desire เยอะ และความละเอียดก็มากกว่าเดิม ตอนนี้เป็นห้าล้านพิกเซลแล้ว แถมยังมีแฟลชแอลอีดีที่เราชื่นชอบอีกด้วย

วิดีโอได้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างน่าทึ่งมากกว่า คลิปวิดีโอความละเอียดสูง 720p ดูสวยสดงดงามบนจอ Retina Display และเมื่ออัพโหลดลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ดี ถ้าคุณนำไปบีบอัดเพื่ออัพโหลดลงบน YouTube ภาพที่ได้จะสูญเสียรายละเอียดไปบ้าง ฟังก์ชันตัดต่อวิดีโอในตัวกล้องก็ง่ายๆ เช่นกัน และคุณสามารถเพิ่ม iMovie (ประมาณ 150 บาท) เข้าไปถ้าอยากได้ผลงานการตัดต่อที่ก้าวหน้าซับซ้อนยิ่งขึ้น นอกจากกล้องหลักที่

ฟีเจอร์สำคัญๆ ของระบบปฏิบัติการใหม่ ทั้งหมดนี้มากับ iPhone 4 และนำไปใช้กับ 3GS ได้ด้วย แถมฟีเจอร์บางอย่างก็ใช้ได้กับรุ่น 3G และ iPod Touch
   
Multitasking
เชื่อว่าหลายคนคงรอคอยสิ่งนี้มานานแล้ว นอกเสียจากว่าพวกเขาจะ jailbreak (แฮ็กเครื่องเพื่อปลดล็อก) เจ้า 3GS นั่นแหละ แต่เราเชื่อว่าผู้อ่านนิตยสารของเราคงไม่ทำอย่างนั้น เพราะมันเป็นเรื่องชั่วร้ายและไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี multitasking หรือการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันบน iOS 4 นั้นยังไม่ถึงกับสมบูรณ์เต็มร้อย

ถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ คุณจะต้องแตะที่ปุ่ม Home สองครั้งติดกัน ซึ่งจะมีเมนูย่อยของแอพพลิเคชั่นปรากฏขึ้น จากนั้นคุณก็สามารถสับเปลี่ยนไปมาระหว่างเว็บไซต์ eBay เว็บบราวเซอร์ Safari ตรวจเช็คอีเมล เล่นเกม และอื่นๆ

แอพพลิเคชั่น Spotify ล่าสุด เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ฟีเจอร์ multitasking ได้ดี แต่แอพพลิเคชั่นตัวอื่นๆ อีกหลายตัวจะต้องผ่านการอัพเดตเสียก่อนจึงจะรองรับ ขณะที่เราเตรียมบทความนี้ เรายังไม่สามารถปล่อยให้ MSN Messenger รันตลอดเวลา ส่วน IM+ ทำได้แต่ไม่ค่อยเสถียร

สำหรับแอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่คุณจะต้อง log out แล้วจึงกลับเข้ามาใหม่ แต่ยังไงๆ อีกหน่อยเราคงไม่ต้องทำอย่างนี้แน่

1 EMAIL ACCOUNTS
ควบคุมบัญชีอีเมลต่างๆ สำหรับ Gmail, Yahoo, Exchange และอื่นๆ ได้จาก inbox อันเดียวกัน และจัดเรียงข้อความตามหัวข้อ ทำให้การตรวจดูข้อความต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้นเยอะ

2 SPELL CHECKER
ระบบตรวจและแก้ไขคำสะกดใช้ได้กับ Mail, Notes และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ

3 FOLDERS
แทนที่จะมีโฮมสกรีนหลายหน้า และคุณจะต้องสับเปลี่ยนไปมาเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ iOS 4 ให้คุณจัดหมวดหมู่แอพพลิเคชั่นอย่างเป็นระเบียบในโฟลเดอร์ต่างๆ มีโฟลเดอร์ Utilities สำหรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของ iPhone (เครื่องคิดเลข นาฬิกา เข็มทิศ ฯลฯ) อยู่บนหน้าจอเรียบร้อยแล้วและคุณสามารถเพิ่มโฟลเดอร์สำหรับเกมและอื่นๆ เข้าไป ถ้าจะสร้างโฟลเดอร์ใหม่ก็แค่กดเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการค้างไว้นิดนึงจนมันสั่นเล็กน้อยเท่านั้นแหละ

4 BACKGROUND
เบื่อหน่ายกับพื้นหลังสีดำงั้นเหรอ? เลือกเอาเองได้เลย

5 GIFT APPS
ให้คุณซื้อแอพพลิเคชั่นและมอบให้กับเจ้าของ Apple คนอื่นๆ ได้เหมือนกับเพลงใน iTunes

6 iADS
ฟีเจอร์นี้เพิ่งเปิดให้ใช้งานไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนานำโฆษณาแบบ interactive พร้อมวิดีโอและคอนเทนต์ออนไลน์มาใส่ในแอพพลิเคชั่น พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากบริการแจ้งตำแหน่งสถานที่เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เหมาะกับสถานที่ที่คุณอยู่ แหม อยากเห็นจริงๆ…

7 GAME CENTER
กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ Game Center จะเป็นเครือข่ายสังคมสำหรับเล่นเกมสำหรับ iPhone ซึ่งให้ผู้ใช้เล่นเกมแข่งกับคนอื่นๆ และเปรียบเทียบคะแนน

iBooks
แอพพลิเคชั่น iBooks และร้านค้าออนไลน์มีมาตั้งแต่ตอนที่ iPad เปิดตัวแล้ว ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์ในฝันสำหรับแสดงหน้าหนังสืออยู่แล้ว ส่วน iPhone นั้นแสดงหน้าหนังสือได้ดีสู้ไม่ได้ แต่ก็ใช้อ่านอีบุ๊คได้ดีทีเดียว จอขนาด 3.5 นิ้ว เหมาะแก่การอ่านในระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วละสำหรับอ่านในขณะเดินทางไปกลับที่ทำงานระยะทางสั้นๆ ร้านขายหนังสือ iBookstore ของ Apple มีหนังสือใหม่ๆ มากกว่า 60,000 เล่ม และหนังสือที่เลิกตีพิมพ์ไปแล้วให้อ่านฟรี ซึ่งคุณจะดาวน์โหลดมาเก็บไว้บนชั้นวางหนังสือเสมือนจริง หนังสือที่มีให้เลือกถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับ Amazon Kindle แต่ประสบการณ์ในการใช้งานที่ผู้ใช้จะได้รับนั้นดีกว่า และมีแอพพลิเคชั่น Kindle ให้ใช้ถ้าอยากอ่านหนังสือมากกว่าที่มีอยู่ละก็ ความใส่ใจในรายละเอียดนั้นสุดยอด ขณะที่คุณเปลี่ยนหน้าคุณจะมองเห็นริมกระดาษม้วนขึ้นเหมือนกับการพลิกหน้าหนังสือจริงๆ

ในระยะเวลาแค่ 12 เดือน STEVE JOBS และพรรคพวกได้สร้างนิยามใหม่ให้กับวงการโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง

iPhone 4 เป็นอีกหนึ่งผลงานคลาสสิกของ Apple ในระยะเวลาแค่ 12 เดือน Steve Jobs และพรรคพวกได้สร้างนิยามใหม่ให้กับวงการโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง ตั้งแต่จอ Retina Display อันสวยงามไปจนถึงฟังก์ชันถ่ายวิดีโอไฮเดฟที่เพิ่มเข้ามาและตั้งแต่ระบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่ายสุดๆ ไปจนถึงความพยายามในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันวิดีโอคอลล์ให้เป็นที่นิยม Apple iPhone 4 เป็นอุปกรณ์เลิศหรูอลังการที่จะคว้าใจผู้พบเห็นอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าการรับสัญญาณที่กล่าวไปข้างต้นจะไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่โตนะ
16GB: ฿22,250 32GB: ฿26,000 WWW.APPLE.COM/UK

คะแนนและความเห็นของเรา
LOVE
ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ระบบอินเตอร์เฟส เครื่องเล่นมีเดีย ร้านค้าออนไลน์ Apps และ iTunes Stores ความเร็วที่ดีกว่าเดิมและกล้อง จอคุณภาพสุดยอด การรองรับ multitasking ในบางส่วน โฟลเดอร์สำหรับจัดหมวดหมู่แอพพลิเคชั่น
HATE ก็เหมือนเดิมอีกนั่นแหละ การไม่รองรับเว็บไซต์ Flash และราคาแพงกว่าโทรศัพท์ระดับเดียวกันทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ปัญหาการรับสัญญาณไม่น่าให้อภัยเลย แม้ว่ามันอาจจะไม่เลวร้ายอะไรนักหนาก็เถอะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook