สัมผัสแรกกับ Samsung Galaxy S3

สัมผัสแรกกับ Samsung Galaxy S3 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในงาน Samsung Mobile UNPACKED 2012 ซึ่งจัดขึ้นที่ Earls Court ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตามเวลาในประเทศอังกฤษ หรือประมาณตีหนึ่ง ของวันที่ 4 พฤษภาคม ตามเวลาในประเทศไทยนั่นเอง โดยในงานนี้ ได้มีการเปิดตัว สมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy โดย ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) เรียกได้ว่า เรือธงนัมเบอร์ใหม่จากซัมซุง ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S3 นี้เปิดตัวออกมาเปิดตัวออกมา 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน (Pebble blue) และสีขาว Marble white

Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3)

สเปคอย่างเป็นทางการ ของแอนดรอยด์โฟนระดับ High-end ที่หลายๆ คนรอคอย Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) ซึ่งการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) นั้น คล้ายคลึงกับ Samsung Galaxy Nexus ครับ โดยสเปคของ Samsung Galaxy S3 เป็นดังนี้

- จอแสดงผลขนาด 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Display ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
- ระบบประมวลผลแบบ Quad-core (Exynos 4 Quad) Processor ความละเอียด 1.4GHz
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash มีโหมดถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 3.3 ภาพต่อวินาที
- User Interface แบบ TouchWiz Nature UX
- รองรับเครือข่าย 3G และ 4G LTE , Bluetooth 4.0, Wi-Fi Direct, DLNA, MHL microUSB port
- รองรับเทคโนโลยี NFC
- ใช้ microSIM
- ตัวเครื่องหนา 8.6 มิลลิเมตร หนัก 133 กรัม
- แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh
- มี 2 สี ได้แก่ ขาว Marble white และ น้ำเงิน Pebble blue

การออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3)

สำหรับวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่อง Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) นั้น ไม่ใช่เป็นพลาสติกธรรมดาๆ เหมือนกับที่เราเคยเห็นบน Samsung Galaxy S II นะครับ แต่เป็นพลาสติกประเภทโพลีคาร์บอเนต ที่เคลือบผิวด้วย Hyperglaze ซึ่งคือขั้นตอนการเคลือบผิวด้วยเซรามิกนั่นเอง แน่นอนว่า คุณภาพนั้น ย่อมดีกว่าโพลีคาร์บอเนตอย่างแน่นอนครับ ซึ่งนอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังแข็งแรงทนทานอีกด้วย

 

 Samsung Galaxy S3 Vs Samsung Galaxy S2

 Samsung Galaxy S3 Vs Samsung Galaxy S2

สำหรับความกว้างของจอแสดงผลนั้น อยู่ที่ขนาด 4.8 นิ้ว โดยจอเป็นแบบ HD Super AMOLED ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล แถมจอยังใช้กระจกแบบ Gorilla Glass อีกด้วย

ส่วนของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) ด้านบนนั้นประกอบไปด้วยไฟแสดงสถานะ LED, ลำโพงสำหรับสนทนา, Ambient Light sensor สำหรับตรวจจับสภาพแสง และปรับหน้าจอให้สว่างตามสภาวะนั้นๆ

 สำหรับกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล ใช้บันทึกทั้งภาพนิ่ง วิดีโอ และใช้งานวีดีโอคอลล์

ด้านล่างของจอแสดงผล มีปุ่มทั้งหมด 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม Menu กัับปุ่ม Back 2 ปุ่มนี้เป็นปุ่มแบบ Capacitive Button และอีก 1 ปุ่มคือ ปุ่ม Home ซึ่งเป็นปุ่มแบบ physical button เหมือนเดิมครับ

ด่านล่างของเครื่องประกอบด้วย MicroUSB Port สำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น ชาร์จแบตเตอรี่, เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ  และ ไมโครโฟนสำหรับสนทนา

ด้านบนตัวเครื่อง เป็นไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร 

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) มีเพียงปุ่มปรับเสียงเท่านั้นครับ

 ด้านขวาของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3)  นั้นเป็นส่วนที่วางของปุ่มเป็นเปิด-ปิด-ล็อคเครื่อง

 คราวนี้ก็มาถึงคราวของการพีวิวด้านหลังของตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) กันบ้างครับมีลวดลายเล็กน้อย ดูหรูหราดีครับผมชอบ

ฝาหลัง Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) ที่โดนทางทีมงานทดสอบบิด (แอบกลัวหักเหมือนกันครับ)

ด้านหลังของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S3) เป็นตำแหน่งของกล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช(ซึ่งตอนแรกบอกว่ากล้อง 12 ล้านพิกเซล) ขวาสุดเป็นลำโพงครับ

แบตเตอรี่ขนาด 2100 mAh

เมื่อแกะฝาหลังออก จะพบกับแบตเตอรี่, ช่องใส่ MicroSIM และช่องสำหรับใส่ MicroSD card

เปรียบเทียบขนาดกับ iPhone 4S นั้นจะเห็นได้ถึงขนาดความหนาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ

เปรียบเทียบความหนาระหว่าง 2 เครื่องแบบชัดๆ ครับ มองด้วยตาเปล่าก็แยกได้ อาจจะเพราะรูปทรงของเครื่องที่ออกแบบมาคนละอย่างกันครับ

Samsung Galaxy S3 Vs iPhone 4S

สำหรับในส่วนของ User Interface ของ Samsung Galaxy S 3 ทางทีมงาน Sanook! Hitech จะนำมาฝากในตอนต่อไปครับ!!

จุดเด่น

• ระบบประมวลผล ทำงานได้ไหลลื่น
• หน้าจอแบบ Super AMOLED Plus สว่างมาก สีสดใส ใช้งานได้อย่างชัดเจน
• รองรับการใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย จะเป็น Dtac, AIS หรือ Truemove H
• ตัวเครื่อง น้ำหนักเบามาก
• ถ่ายกลางคืนได้สวยงาน (งานนี้ความรู้สึกมันสามารถฆ่า iPhone ได้เลยครับ)

จุดด้อย

• คนที่มือเล็ก คงจะใช้งานได้ไม่ถนัด เนื่องจากตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S 3 กว้าง