Introduction: Kodak Z1015IS Kodak EasyShare Z1015IS มาพร้อมกำลังซูม 15x เริ่มต้นมุมกว้างที่ 28mm จนถึง 420mm ความละเอียดภาพ 10 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ชิ้นเลนส์ Schneider พร้อมขนาดกระทัดรัดพกพาสะดวก ถ่ายวิดีโอระดับ HD ที่สำคัญหน้าจอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว ดูภาพได้จุใจ ครั้งแรกกับการทดสอบกล้องจาก Kodak ซึ่งรุ่นนี้ต้องเรียกว่า คุณภาพของไฟล์รูปถ่ายจัดได้ว่ายอดเยี่ยม สามารถเลือก iso=80 ได้ซึ่งเมื่อนำมาแต่งภาพก็ได้ภาพที่ไม่แตกเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้หากผู้อ่านต้องการถ่ายภาพให้ได้เฉกเช่นกล้อง DSLR ก็สามารถทำได้ เพราะมีโหมดอัตโนมัติมาให้ปรับแต่งพอสนุก แม้จะไม่อิสระมากนัก แต่ถ้าเป็นกล้องคอมแพคด้วยกัน ย่อมถือว่าครบเครื่องมากๆ Specification ปกติกล้อง Super Zoom มักจะมีมุมที่แคบอันเนื่องมาจากข้อจำกัดของ CCD และกำลังซูมที่มากเกินไป Kodak จึงได้เพิ่มช่วง Wide 28mm เข้ามาด้วย เพื่อให้สามารถเก็บภาพมุมกว้าง หรือเลือกใช้ซูมพลังสูงได้ตามสะดวก นอกจากนี้ความละเอียด 10 ล้านก็มากเกินพอที่จะนำภาพไปใช้ในระดับงานพิมพ์ได้สบายๆ Body & Design: Kodak Z1015IS การดีไซน์นั้นทำออกมาได้ดีจับถนัด กระชับมือ แม้ว่าอาจจะดูเบาเกินไป จุดที่ไม่สะดวกคือ ปุ่มสำหรับเลือกตั้งค่ารูรับแสง ชดเชยแสงอยู่ทางด้านขวา ค่อนข้างไม่สะดวก แต่ส่วนอื่นๆ ถือว่าทำได้ดี ของที่ให้มาในกล่อง 1. กล้อง Kodak EasyShare Z1015IS 2. สายคล้องกล้อง 3. ซองหนังสำหรับใส่กล้อง 4. ฝาปิดกล้อง 5. แท่นชาร์จ 6. หม้อแปลงสำหรับต่อชาร์จแบตเตอรี่ ด้านหน้า ไล่จากทางด้านซ้ายก็จะเป็นปุ่มลั่นชัตเตอร์ ปุ่มปรับโหมด ไฟจับเวลา แฟลช เลนส์ของกล้อง ปุ่มสำหรับตั้งค่าต่างๆ และจุดเล็กๆ เป็นช่องของไมโครโฟนอัดเสียงตอนถ่ายวิดีโอ ด้านหลัง ด้านหลังจะประกอบด้วยจอแสดงผลขนาด 3” ซ้ายสุดเป็นปุ่มสลับระหว่างจอ LCD กับ EVF ช่องมองภาพ ด้านขวาจะมีปุ่ม Zoom ต่ำลงมาจะปุ่มสีแดงจะช่วยในการ Share ภาพไปยังคอมพิวเตอร์ ปุ่ม I คือปุ่มดูรายละเอียดรูปภาพ ปุ่ม > ใช้พรีวิวภาพ ปุ่มถังขยะสำหรับลบภาพ และปุ่มเมนูสำหรับปรับแต่งค่าต่างๆ ขวาสุดก็จะเป็นปุ่ม 5 ทิศทาง รอบด้าน เมื่อสำรวจรอบๆ ด้านด้านขวาค่อนข้างโล่งเหมือนกล้อง DSLR ทั่วๆ ไป กริปที่จับได้ถนัดมือ และช่องสำหรับร้อยสาย สำหรับด้านซ้ายก็จะประกอบด้วยช่องร้อยสายอีกฝั่ง ส่วนที่เป็นยางปิดก็จะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อ USB ที่ตัวเลนส์จะมีข้อความ 15x และ Wide Angle เพิ่มจุดเด่นที่ DSLR Like หลายๆ รุ่นไม่มี ทางด้านบนไล่จากทางซ้ายผู้อ่านจะพบปุ่ม Adjust ค่าต่างๆ ที่มีลักษณะเป็น Jog Dial ต้องขอติว่าไวเกินไป แต่ถ้าใช้บ่อยๆ ก็จะชินไปเอง ส่วนที่เป็นแฟลชจะเห็นยี่ห้อ Kodak ชัดเจน ถัดไปจะเป็นปุ่มเลือกโหมดการใช้งาน ปุ่มเปิดปิดที่มีลักษณะแบบกระเดื่อง นอกจากนั้นจะมีปุ่มอีก 3 ปุ่มคือ ปุ่มเลือกระบบแฟลช ปุ่มเลือกระยะโฟกัส และปุ่มสำหรับเลือกระบบถ่ายภาพ ส่วนตอนที่เลนส์ยืดออกสูงสุดก็ไม่น่ากลัวมากนักดังภาพ ด้านล่างจะเป็นช่องสำหรับแบตเตอรี่และเมมโมรี่ สามารถติดขาตั้งกล้องได้สะดวก และจะมีช่องสำหรับต่อกับ Dock เพื่อชาร์จไฟ ใส่เมมโมรี่เปลี่ยนแบตเตอรี่ แบตเตอรี่และเมมโมรี่จะใส่ในช่องเดียวกันทางด้านล่าง โดยการ์ดหน่วยความจำชนิด SDHC ซึ่งราคาค่อนข้างประหยัด ส่วนแบตเตอรี่นั้นจะต้องถอดออกมาต่อกับที่ชาร์จแบบพิเศษ Performance: Kodak Z1015IS เมนูจากกล้อง Kodak อาจจะแปลกตาสำหรับผู้อ่านที่เคยใช้งานครั้งแรก แต่ก็เป็นระเบียบดีหากใช้บ่อย โดเมนูเกี่ยวกับไฟล์และระบบการโฟกัสจะอยู่มุมซ้าย มุมขวาจะเป็นโหมดอัตโนมัติต่างๆ และจำนวนรูปที่เหลือที่จะถ่ายได้ ด้านล่างทั้งหมดจะเป็นค่าต่างๆ ที่ตั้งก่อนจะถ่ายภาพ เช่น รูรับแสง ความไวชัตเตอร์ การชดเชยแสง ส่วนโหมดอัตโนมัติใน Scene โหมดก็มีให้เลือกมากมาย โหมดดูภาพและดูวีดีโอ สามารถเลือกชมรายละเอียดต่างๆ ได้ดี ประกอบกับหน้าจอที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้การดูรายละเอียด หรือความคมชัดของภาพทำได้ดี และสามารถดู Histogram ได้เฉกเช่นกล้อง DSLR เนื่องจากกล้องตัวนี้เป็น Super Zoom ทำให้การกะระยะต่างๆ ค่อนข้างยากครับ (28-420mm) ฉะนั้นผู้เขียนขอประมาณเอา โดยช่วง Wide ให้ภาพที่คมชัดมาก พอพ้นช่วง 85mm ขึ้นไปความชัดลดลงเล็กน้อย แต่ถ้าหากเปิด IS ไว้ก็จะยังคมเหมือนเดิม ช่วง 200-400mm มีโอกาสที่จะหลุด Focus มากพอสมควรทีเดียว แต่โอกาสเกิดก็ไม่บ่อยนัก การทดสอบเรื่องสีสันต่างๆ ในภาพก็จะเห็นว่าสีเขียวและสีน้ำเงินอาจจะไม่สดมากนัก แต่พอเป็นสีแดงหรือสีเหลืองจะสดใสมาก ส่วนสีขาวกับดำก็จะเห็นว่าดำไม่ค่อยสนิทนัก การทดสอบสมดุลสีขาวนั้น ปรากฏว่าค่อนข้างตรงกับความเป็นจริง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลมากนักเมื่อเจอกับอุณหภูมิสีที่แตกต่างกัน ค่า ISO ที่ระดับต่างๆ เป็นที่น่าสนใจว่ากล้องรุ่นนี้สามารถอัดได้น้อยสุดถึง 80 ซึ่งค่อนข้างให้ภาพที่นวลสวยละเอียด แต่น้อยส์จะเริ่มมาเยือนก็เมื่อใช้ประมาณ 1600 ซึ่งถือได้ว่ายอดเยี่ยมทีเดียว ทดสอบ WB แบบต่างๆในภาพเดียวกันพบว่าค่อนข้างแม่นยำ โดยเฉพาะ Auto ให้สีสันได้ถูกต้องและสดใส ลองถ่าย Portrait พบว่าให้ความคมถึงขอบและฉากหลังหลุดไปพอประมาณ แม้จะไม่มากเท่ากับกล้อง DSLR แต่ก็สามารถทำภาพในลักษณะมีโบเก้งามๆ ได้ไม่ยากนัก ลองถ่ายมาโครหลังดำดูบ้าง น่าเสียดายจะพบว่าไม่ดำนักเนื่องจาก ไม่สามารถเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ได้ตามต้องการ สูงสุดได้เพียง 1/1000 ซึ่งไม่พอที่จะ under ให้ดำสนิทได้ ในโหมดอัตโนมัติกล้องนั้จะมีโหมดสำหรับใช้ ISO สูงๆ ด้วย แต่เมื่อใช้ผลก็เป็นดังภาพ ภาพแตกมากจนเหมือนถ่ายด้วยกล้องมือถือ ฉะนั้นโหมดนี้ไม่จำเป็นไม่ต้องใช้ครับ Conclusions: Kodak Z1015IS สรุปแล้ว Kodak นี้เหมาะกับใคร ผู้เขียนคิดว่าสำหรับผู้อ่านที่อาจจะถ่ายภาพพอสมควร เน้นกล้องลุยๆ เพราะช่วงซูมมโหฬารขนาดนี้ ถ้าเป็นกล้อง DSLR คงต้องพกเลนส์มากมาย แต่กล้องตัวนี้มีครับ มีระบบต่างๆ ที่คล้ายคลึงกล้อง DSLR ที่สำคัญเบามากๆ พกไปไหนมาไหนได้ทุกที่ แถมยกถ่ายไม่เป็นที่สนใจของยามมากนัก เป็นกล้อง Candid ที่ยอดเยี่ยม ระบบIS ค่อนข้างประทับใจ อัตราการกินแบตก็ไม่มากนักสามารถใช้บู๊เต็มๆ วันได้โดยโดยไม่หมด ลองของยากหลายๆ ที่กล้อง DSLR ทำได้ เช่น การถ่ายภาพแบบแสงน้อย การถ่ายภาพอันเดอร์ การถ่ายภาพวิวมุมกว้างถือว่าทำได้ดีทีเดียว หรือแม้กระทั่งการถ่าย Portrait ก็สามารถถ่ายได้โดยไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องสีสันก็ให้สีแดงและเหลืองค่อนข้างสด ถ่ายมาโครได้ดีและมีฉากหลังที่สวยงาม ส่วนจุดเด่นอื่นๆ คือ ถ่ายวิดีโอได้ละเอียดมาก ตัวอย่างภาพถ่ายจากล้อง Kodak EasyShare Z1015IS จุดเด่น 1. ปรับตั้งค่าต่างๆ ได้พอๆ กับกล้อง DSLR 2. วิดีโอมีความละเอียดสูงมาก 3. ระยะซูมพอเหมาะมีทั้ง Wide และ Tele ที่ดี 4. มี IS ช่วยให้ภาพค่อนข้างคมชัด 5. Iso=800 ภาพยังคงไม่แตกมากนัก ข้อสังเกต 1. โหมด iso สูงแตกจนเกินไป 2. ปุ่ม Adjust ไวมากๆ ตั้งค่าไม่ค่อยสะดวก

ส

อัลบั้มภาพ รีวิว Kodak Z1015IS โปรคอมแพคสารพัดช่วงซูม ภาพที่ 34 / 41

รีวิว Kodak Z1015IS โปรคอมแพคสารพัดช่วงซูม

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

รีวิว "NoiseFIT Endeavour" สมาร์ทวอชท์งบไม่ถึง 3,000 บาท ที่ครบและดูดีกว่าใคร

พรีวิว HUAWEI Nova 12i และ Nova 12s เด่นทั้งดีไซน์ และกล้องทั้งหน้าและหลัง

รีวิว “SONOS Era 100” ลำโพงไร้สายสัญญาณ Wi-Fi เสียงกลมกล่อม แยกห้องได้สบาย

ลองใช้ "OPPO Reno 11F 5G" พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ AI Eraser ลบวัตถุส่วนเกินออกได้