โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ pairat@matichon.co.th

การบังเกิดขึ้นของอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิด 'เวิร์ลด์ ไวด์ เว็บ' ขึ้นตามมา เมื่อ 'เว็บ' ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว มันไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ตรงกันข้ามกลับพัฒนาไม่หยุดยั้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตจำแนกยุคแห่งพัฒนาการของเวิร์ลด์ ไวด์ เว็บ ไว้เป็นช่วงๆ แต่ละช่วงกินเวลา 10 ปี โดยประมาณ พวกเขาใช้คำแทนห้วงเวลาของพัฒนาการแต่ละยุคของอินเตอร์เน็ตไว้เป็นเวอร์ชั่น แต่ละเวอร์ชั่นไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหนหากแต่ถูกกลืนอยู่ในองคาพยพของเวอร์ชั่นใหม่ที่กลายเป็นกระแสหลักของเว็บในเวลาต่อมา ถ้าพัฒนาการของเว็บในช่วง 10 ปีแรก คือระหว่าง 1990-2000 โดยประมาณ คือ 'เว็บ 1.0' ตามที่นักเทคโนโลยีว่ากันไว้แล้วละก็ ตอนนี้เราก็อยู่ในห้วงเวลาของ 'เว็บ 2.0' ที่จะพัฒนาการไปเต็มวัฏจักรของมันในปี 2010 หรืออีก 3 ปีข้างหน้านี้ แต่ถึงตอนนี้ผู้คนในแวดวง 'ซิลิคอน วัลเลย์' แหล่งพัฒนาแนวความคิดสำหรับอินเตอร์เน็ตในอนาคต เริ่มพูดถึง 'เว็บ 3.0' และ 'เว็บ 4.0' กันแล้ว นั่นคือเวอร์ชั่นของเว็บยุคใหม่ในอีก 20 ปีข้างหน้า ยุคของ 'เว็บ 1.0' เวอร์ชั่นแรกของเวิร์ลด์ ไวด์ เว็บ ก็คือการเชื่อมต่อที่ทำให้องค์ความรู้มหาศาลทั่วโลกที่อยู่ในรูปข้อมูลดิจิตอลสามารถเข้าถึงได้ ในโลกไซเบอร์ยุค 'เว็บ 2.0' ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเหล่านั้นถูกทำให้ 'ทรงคุณค่า' ขึ้นมามหาศาลโดยอาศัยองค์รวมของภูมิปัญญาของชนหมู่มาก อย่างเช่นการเกิดขึ้นของปรากฏการณ์อย่าง 'เฟซบุ๊ก' หรือ 'มายสเปซ' รวมไปถึงอัลกอริธึ่มพื้นฐาน 'เพจแรงค์' ของกูเกิ้ล และดิ๊กดอตคอม ฯลฯ ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารหรือเว็บไซต์ที่มี 'คนหมู่มาก' ให้ความสนใจหรือชื่นชอบมากกว่าข้อมูลอื่น แล้ว 'เว็บ 3.0' ในจินตนภาพของนักเทคโนโลยีคืออะไร? คำตอบอย่างง่ายก็คือ การนำเอา 'สมอง' มาใส่ให้กับอินเตอร์เน็ตนั่นเอง! 'เว็บ 3.0' หรือที่บางคน (รวมทั้งจอห์น แบตทีล เจ้าของงานเขียน 'เดอะ เสิร์ช') เรียกว่า 'ซีแมนติคเว็บ' คืออินเตอร์เน็ตของวันพรุ่งนี้ที่จะมีขีดความสามารถเป็นของตัวเองเพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยง 'วิถีชีวิตแบบดิจิตอล' ของเรา ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว, อี-เมล, หรือไฟล์ข้อมูลในพีซี เข้ากับวิถีชีวิตแบบดิจิตอลอื่นๆ ที่มีอยู่ทั้งหมด มันจะสามารถล่วงรู้ได้ว่า อี-เมล ที่เราเขียนนั้นเป็นเรื่องราวที่เขียนเกี่ยวกับอะไร และสามารถจะให้คำแนะนำว่ามีเว็บไซต์ไหน หรือหนังสือเล่มไหน กระทั่งเอกสาร, รูปภาพ และวิดีโอ ดิจิตอลใดบ้าง (ซึ่งเราบันทึกเก็บเอาไว้) ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของอี-เมลที่เราเขียนอยู่ เทคโนโลยีสำคัญที่ถูกหยิบยกมาเป็นตัวอย่างของเว็บ 3.0 อยู่บ่อยครั้งก็คือ การพัฒนาการสืบค้นโดยใช้ 'ภาษาตามธรรมชาติ' ของเรา ซึ่ง 'พาวเวอร์เซ็ต' บริษัทเทคโนโลยีในซิลิคอน วัลเลย์ กำลังพัฒนาขึ้นมาเพื่อนำเสนอต่อสาธารณชนในอีกไม่ช้าไม่นาน โดยหลักการแล้ว เสิร์ชเอ็นจิ้นของเทคโนโลยีการสืบค้นด้วยภาษาธรรมชาติที่ว่านี้จะสามารถตอบคำถามทั่วๆ ไปของเรา อาทิ 'ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนไหนตายด้วยโรคร้าย' ได้ นั่นหมายความว่า มันรู้โดยตัวของมันเองว่า โรนัลด์ เรแกน คือประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และโรคอัลไซเมอร์ (ที่เรแกนเป็น) คือโรคร้าย โนวา สไปแวค ผู้ก่อตั้ง 'เรดาร์ เน็ตเวิร์ก' บริษัทผู้พัฒนาเว็บ 3.0 ระดับหัวแถว บอกว่า โดยรวมแล้ว เว็บ 3.0 หมายถึงความพยายามของนักเทคโนโลยีทั้งหลายในการ 'ยกเครื่อง' ครั้งใหญ่ให้กับแพลตฟอร์มพื้นฐานของอินเตอร์เน็ต เพื่อทำให้มัน 'เข้าใจ' ข้อมูลทุกๆ ชิ้นที่อยู่ในเวิร์ลด์ ไวด์ เว็บ ได้ และสามารถ 'เชื่อมโยง' ข้อมูลเหล่านั้นซึ่งกันและกันได้ สไปแวคบอกว่า เว็บ 1.0 คือการพัฒนาแพลตฟอร์มพื้นฐานดังกล่าว ทำให้เกิดการพัฒนาในส่วนของ 'การใช้งาน' ที่เป็นเว็บ 2.0 ขึ้นมาได้ เว็บ 3.0 เป็นการกลับไปยกเครื่องแพลตฟอร์มพื้นฐานดังกล่าวใหม่หมดอีกครั้ง เพื่อเปิดทางให้กับการใช้งานใหม่ๆ ในยุค 'เว็บ 4.0' ให้เกิดขึ้นตามมาในภายหลัง...ไม่ช้าไม่นาน ไม่เพียงแต่ยกเครื่องใหม่ให้ 'ทรงพลัง' และ 'ฉลาด' มากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น เว็บ 3.0 ยังต้องเป็น 'โอเพ่น แพลตฟอร์ม' ที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถนำไปพัฒนาหรือใช้งานได้ตามที่ผู้ใช้หรือผู้พัฒนาต้องการ ตัวอย่างเช่น เราสามารถลากเอาแอพพลิเคชั่นอะไรก็ได้ (ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมพยากรณ์อากาศ หรือโปรแกรมรับ-ส่งอี-เมล) มาใส่ลงใน 'ไอโฟน' หรือ 'โนเกีย' หรืออะไรก็แล้วแต่ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ แอปเปิ้ล หรือโนเกีย เห็นชอบด้วย เพื่อให้การเชื่อมโยงเกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึง ทุกเวลา และมีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างที่ทุกคนต้องการได้อย่างแท้จริง นั่นคือ เว็บ 3.0 และอนาคตของอินเตอร์เน็ตครับ!

สนับสนุนเนื้อหาโดย

อัลบั้มภาพ เว็บ 3.0 อินเตอร์เน็ตในอีก 20 ปีข้างหน้า ภาพที่ 1 / 3

เว็บ 3.0 อินเตอร์เน็ตในอีก 20 ปีข้างหน้า

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

รวมมือถือตกรุ่นน่าใช้! ในเดือน เมษายน 2024

เปิดตัวหูฟัง Nothing Ear และ Ear (a) คู่หูเสียงรองรับครบ และใช้ ChatGPT ได้

ที่สุดของรุ่น "HUAWEI Pura 70 Ultra" สมาร์ทโฟนเรือธงมาพร้อมกับเซนเซอร์ 1 นิ้ว ที่กล้องยืดหดได้

เปิดตัวแล้ว HUAWEI Pura 70 Series เด่นเรื่องกล้องและดีไซน์ทรง 3 เหลี่ยม