Acer Ferrari 4000 หนึ่งในโน้ตบุ๊ก 3 รุ่น ตระกูลนี้ที่ออกมาให้เราได้ทดสอบความแรงกันอย่างใกล้ชิด มองจากภายนอกรู้สึกถึงความสวยงามพร้อมกับความแข็งแรงของตัวเคส ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับ ตัวเคสทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ และวัสดุบางชิ้นยังทำด้วยวัสดุเดียวกับที่ผลิตเป็นรถแข่งฟอร์มูล่า 1 ที่มีความทนทานสูงและมีน้ำหนักเบา ตัวเครื่องมีสีดำคาดแดง ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม ใช้ตัวประมวลผลจาก AMD Turion 64 และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP Pro x64 Edition ซึ่งออกแบบมาให้รองรับการทำงานกับซีพียู 64 บิต โดยเฉพาะทางด้านกราฟฟิกชิปเซตก็ไม่เป็นรองด้วย ATI Mobility Radeon X700 128 MB PCIe ซึ่งจะทำให้การใช้งานทางด้านกราฟฟิกและการเล่นเกมส์ทำได้ดีขึ้นอีกมาก เพิ่มหน่วยความจำมาให้แล้ว 1 กิกะไบต์ พร้อมฮาร์ดดิสก์ให้คุณได้ใช้งานกันอย่างจะใจคือขนาด 100 กิกะไบต์ เครื่องรองรับการใช้งานเครือข่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบอีเทอร์เน็ตแลน (10/100Mps) และเครือข่ายระบบไวร์เลสแลน 802.11b/g รวมทั้งการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกโดยผ่านสัญญาณบลูทูธ นอกจากนี้ยังสามารถอ่านการ์ดหน่วยความจำได้ 5 ชนิด คือ SD, MMC, xD, Memory Stick และ Memory Stick สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Acer Ferrari 4000 ใช้งานได้ดีขึ้น คือเมาส์ไร้สายแบบบลูทูธ มีสีแดงดำที่เข้ากับเครื่อง หรืออาจจะสับเปลี่ยนมาใช้งานแบบมีสายได้โดยผ่ายพอร์ตยูเอสบี

เมื่อทำการเปิดเครื่องและบูตเข้าเมนูวินโดวส์ในช่วงแรก เราจะเห็นเมนูให้ผู้ใช้เลือกใช้งานระหว่าง Windows XP 32 บิต ที่เราคุ้นเคยกันดีกับ Windows XP Pro x64 Edition จากนั้นทางทีมงานเลือกการทดสอบกับ Windows XP 32 บิตก่อน เพื่อทดสอบกับโปรแกรม MobileKark 2002 ผลปรากฏว่าได้คะแนนไปตามคาดหมายครับ คือ จะอยู่ที่ 229 คะแนนและใช้งานได้ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (190 นาที) ส่วนการทดสอบกับโปรแกรม 3Dmark2001 SE ได้คะแนนไป 16377 คะแนน ซึ่งสามารถยอมรับได้เลยว่าเหมาะมากที่จะนำ Acer Ferrari 4000 มาใช้งานทางด้านกราฟิกได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งการเล่นเกมส์ 3 มิติได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งสามารถใช้งานได้ยาวนาน อันน่าจะสืบเนื่องมาจากได้ใช้เทคโนโลยีในการประหยัดพลังงานอย่าง AMD PowerNow นั่นเอง จอแสดงผลแบบไวร์สกรีนแบบ TFT LCD ขนาด 15.4 นิ้ว เมื่อทำการปรับมาที่ความละเอียดสูงสุด 1680x1050 พิกเซล จะให้การแสดงผลที่มีความชัดมาก ไอคอนต่าง ๆ อาจจะดูเล็กไปถนัดตา แต่ก็แลกมาด้วยพื้นที่ในการใช้งานบนหน้าเดสก์ท็อปที่มากขึ้น Acer Ferrari 4000 ทางทีมงานยอมรับว่ามีสมรรถนะที่พร้อมสำหรับการแสดงผลทางด้าน 3 มิติ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งรองรับการใช้งานทางด้านการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายสมัยใหม่ ทั้งไวร์เลสแลนและบลูทูธ ตัวซีพียูเองและระบบปฏิบัติการก็เป็นแบบ 64 บิต แล้ว ในตอนนี้ถ้าคุณต้องการให้การใช้งานเต็มสมรรถนะของตัวเครื่องจริง ๆ ก็รอเพียงแค่ซอฟต์แวร์ใช้งานทั่ว ๆ ไปที่เป็นแบบ 64 บิตด้วยเท่านั้นเอง content by

อัลบั้มภาพ รีวิว Acer Ferrari 4000 ภาพที่ 2 / 4

รีวิว Acer Ferrari 4000

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

พรีวิว HUAWEI Nova 12i และ Nova 12s เด่นทั้งดีไซน์ และกล้องทั้งหน้าและหลัง

รีวิว “SONOS Era 100” ลำโพงไร้สายสัญญาณ Wi-Fi เสียงกลมกล่อม แยกห้องได้สบาย

ลองใช้ "OPPO Reno 11F 5G" พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ AI Eraser ลบวัตถุส่วนเกินออกได้

ชมรอบตัว Redmi Note 13 Pro+ 5G XFF 2024 Edition พิเศษรอบตัว สีสวยกว่าใคร