สัดส่วนภายนอก จากความสำเร็จที่ได้รับมาจาก Motorola RAZR V3 ที่เด่นเรื่องความบางเฉียบของตัวเครื่อง บวกกับวัสดุที่ไฮโซและอลังการมาก ทำให้มันติดชาร์ทดาวเด่นไปอย่างไม่ต้องดึงกลับมาแล้ว มาถึงรุ่นนี้ผมคิดว่าก็ต้องได้อานิสงส์ไปเต็มๆ เหมือนกัน เท่าที่ใช้สัมผัสทางการมองเห็นเพียงอย่างเดียว พบว่าด้านหน้าของมันแปลกตาไปกว่าเดิมนิดหน่อย เพราะวัสดุที่เป็นโลหะมีการขัดให้เงา เมื่อมองสะท้อนกับแสงแล้วขยับตัวเครื่องไปมาจะเห็นแสงแว้บๆ ดูเท่แบบไม่มีใครเหมือนดี อีกอย่างคือ กระจกที่จอด้านหน้ามีความเงาจนเห็นหน้าตัวเอง โลโก้ตัว M ก็มีไฟกะพริบซ้อนอยู่ด้านหลังด้วยครับ ตัวเครื่องยังประกอบได้ดีเหมือนเคย สร้างความประทับใจให้ผมมาก แถมตัวเครื่องออกสีเข้มดูขรึมขึ้นก็โดนผมไปอีกหนึ่งดอกแล้ว ปุ่มกดด้านในมีลวดลายเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้าไม่สังเกตคงไม่รู้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจริงๆ เลยคือ แบ็คไลท์ที่คราวนี้ปนเอาสีน้ำเงินเข้มเข้ามาด้วย บวกกับสีเขียวอมฟ้าเดิม ทำให้ดูโดดเด่นเป็นสง่าในยามค่ำคืนเหลือเกิน อย่างไรก็ดี ผมว่าตำแหน่งของลำโพงที่อยู่ด้านหลังยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพราะจะโดนบดบังพลังเสียงเมื่อวางอยู่บนพื้นเรียบ ทั้งที่ความจริงเสียงมันก็ไม่ได้เบาเลย ใกล้กันตรงส่วนที่เป็นฝาหลังถ้าแกะออกมาดูจะรู้เลยว่าเป็นโลหะแท้ ลองทิ้งลงบนพื้นโต๊ะเบาๆ เสียงดังแกร๊งไพเราะเสนาะหูจริงเชียว ชำแหละเครื่องใน เรามาดูกันว่า V3 รุ่นที่ไอค้อกแค้กมันต่างกับตัวเดิมอย่างไรบ้างนอกจากตัวเครื่องด้านนอก กล้องดิจิตอลไงครับ ที่เปลี่ยนเป็นเมกะพิกเซลแล้ว ความละเอียดสูงสุู่ที่ 1280 x 960 จุด ไม่ใหญ่เกินไปและไม่เล็กจนตกเทรนด์ ด้านการถ่ายวิดีโอก็มีเรื่องแปลกให้เห็นอยู่เหมือนกัน เมื่อเปิดโหมดวิดีโอแล้ว เราจะเห็นว่ามีแถบพลังด้านล่างว่าใช้หน่วยความจำไปเท่าไหร่ ผมก็เข้าใจว่าน่าจะบันทึกภาพได้จนกว่าหน่วยความจำจะเต็ม และก็ตั้งค่าให้เป็นความยาวสูงสุดแล้ว ปรากฏว่าวิ่งไปไม่ถึงนาทีก็หยุด เล่นเอาเซ็งตามระเบียบ แล้วหน่วยความจำล่ะ เพิ่มหรือยัง ก็เพิ่มแล้วสิครับ ตัวเก่ามีไม่ถึง 10 เม็ก เก็บอะไรแป๊บเดียวก็เต็มแล้ว V3i จึงพัฒนาให้ใส่การ์ดไมโคร เอสดีเพิ่มได้ คราวนี้จะเก็บเพลงไว้ฟังหรือใช้ทำเป็นเสียงเรียกเข้าก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไป ที่สำคัญคือเมมโมรี่ที่เหลือยังแบ่งมาให้เป็นพื้นที่เก็บไฟล์อื่นๆ ที่เครื่องไม่รู้จักได้อีกด้วย จอแสดงผลและเสียงเรียกเข้ายังน่าประทับใจเช่นเคย ผมยังมองไม่เห็นความแตกต่างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าวัดกันตามสเป็คแล้วถือว่าเท่าเทียมแบบจับแยกไม่ออกเลย ริงโทนนั้นมีการนำไฟล์เอ็มพีสามมาใช้ได้เหมือนเดิม เมื่อกล่าวถึงเรื่องเสียงแล้วก็ต้องต่อด้วยความสามารถพิเศษอีกอย่าง ซึ่งก็คือ การใช้งานร่วมกับไอจูน (iTunes) เพื่อจัดการไฟล์เพลงในเครื่องให้เป็นระเบียบ โดยเราสามารถหาเพลงที่ต้องการจากชื่อศิลปิน ชื่ออัลบั้ม หรือชื่อเพลง นับว่าเป็นความสามารถโดยตรงของไอพอดเลยนะเนี่ย ด้านการรับส่งไฟล์ บลูทูธยังไม่ได้หายไปไหน และก็ใช้สายดาต้าแบบมินิยูเอสบีได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งผมเองได้ลองใช้สายทั่วไปดูต่อกับคอมปรากฏว่าเครื่องผมเห็นเป็นไดรฟ์ได้ทันที กูรูฟันธง ใครที่ยังติดใจ V3 ไม่หาย ผมว่า V3i ก็พัฒนามาได้ถูกทางแาซื้อมาใช้เป็นอย่างยิ่ง อีกมุมนึงผมกลับคิดว่ามันน่าจะเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ V3 แต่ติดที่มันเก่าแล้ว ตัวนี้จึงเป็นคำตอบที่คุณไม่ต้องลังเลเลย ส่วนใครใช้ตัวเดิมอยู่แล้วอยากเปลี่ยนมามีไอติดท้าย ก็พอจะไหวเช่นกัน อาจจะไม่ได้แตกต่างกันแบบสุดขั้ว อย่างไรเขาก็ลบข้อเสียออกไปจนเกือบหมดเลยล่ะ ยังจำได้ไหมที่เวลาหน่วยความจำเต็มแล้วไม่มีทางเลือกอื่น มันน่ารำคาญขนาดไหน...
ข้อดี จอแสดงผลสีสดมาก วัสดุตัวเครื่องยังเป็นโลหะเหมือนเดิม กล้องดิจิตอลขยับมาเป็น 1.3 เมกะพิกเซล เพิ่มหน่วยความจำด้วยไมโคร เอสดี รองรับการใช้งานกับไอจูนของแอปเปิ้ล ใช้บลูทูธในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ข้อเสีย ถ่ายวิดีโอได้แป๊บเดียว จอแสดงผลด้านนอกยังมีขนาดเล็ก ออแกไนเซอร์ยังไม่ครอบคลุมการใช้งานทั้งหมด ราคา 15,900 บาท ++ รายละเอียดคุณสมบัติของ Motorola V3i สนับสนุนเนื้อหาโดย

อัลบั้มภาพ รีวิว Motorola V3i ภาพที่ 8 / 9

รีวิว Motorola V3i

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

รีวิว “HUAWEI Band 9” สมาร์ทแบนสุดแฟชั่นลุกที่ราคาพันนิดๆ

รีวิว SanDisk GamePlay MicroSD Card ตัวแรงเพื่อเครื่องเล่นเกม

รีวิว "NoiseFIT Endeavour" สมาร์ทวอชท์งบไม่ถึง 3,000 บาท ที่ครบและดูดีกว่าใคร

พรีวิว HUAWEI Nova 12i และ Nova 12s เด่นทั้งดีไซน์ และกล้องทั้งหน้าและหลัง